OCFF-First class Admin Enterbook
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

+4
Zetsubou Semi
Moose ClouDy
RUMINA
Admin
8 posters

หน้า 1 จาก 3 1, 2, 3  Next

Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  Admin Mon Apr 30, 2012 10:22 pm

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Holygrail

เจ้าของเควส :ซีโร่
สถานที่:ภายในทะเลสาบมรณะ

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Dietrich_lakenyos

จำนวนเทิร์นอย่างต่ำ : 4 เทิร์น
จำนวนผู้เล่นที่กำหนด : 4 คน
รางวัลเควส(ผู้เล่น) : จอกศักดิ์สิทธิ์คนละใบ
รางวัลเควส(ผู้ให้คำแนะนำการแต่ง) : เกล็ดนางเงือก
รางวัลเควส(ผู้เข้าชม+คอมเม้น) : ปลาดาวเริ่งรา

รายละเอียด : เมื่อนานมาแล้วจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4เป็นสิ่งที่สามารถสร้างน้ำแห่งความหวัง เพื่อทำให้จิตใจของผู้คนนั้นมีความหวังและสมหวังเป็นเสมือนยารักษาแผลใจ
จอกศักดิ์สิทธิ์นี้มีอายุไม่ต่ำกว่าพันปี เมื่อประมาณ200ปีก่อนได้หายไป ตอนนี้ได้ทราบว่าทั้ง4ใบได้จมลงสู่ทะเลาสาบมรณะ เฝ้ารอผู้กล้าที่จะได้ครอบครอง ทะเลสาบที่ไม่เคยมีผู้รอดกลับมา!!หากท่านต้องการสมบัติ จงผ่านผู้ดูแลไปให้ได้
รายละเอียดNPCที่ต้องใช้ : เงือก กัปปะ ไซเรน และ เซอร์เบอรัส(อยุ่บนบก)


ปล.ห้ามฆ่า เพราะพวกเค้ามีหน้าที่เฝ้าสิ่งสำคัญ

ปล. ห้ามใช้พลังของกุญแจช่วยนะจ๊ะ เพราะเป็นอาณาเขตที่ห้ามใช้เวทย์มนต์ใดๆ








แก้ไขล่าสุดโดย Admin เมื่อ Thu May 10, 2012 12:49 am, ทั้งหมด 3 ครั้ง
Admin
Admin
Admin

จำนวนข้อความ : 67
Join date : 24/04/2012

https://ocff.forumth.com

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Mon Apr 30, 2012 10:25 pm

ช่วยติชมกันด้วยนะคะ.....เราพยายามเขียนบททุกคนให้เฉลี่ยๆกันไปแล้ว.....หมื่นกว่าตัวอักษร(โฮก!!!!)

//เผ่นไปเขียนตอนพิเศษต่อ

TURN I



เมื่อนานมาแล้วจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 เป็นสิ่งที่สามารถสร้างน้ำแห่งความหวังในใจทุกคน
ทำให้ผู้คนนั้นนั้นมีความหวังอันแรงกล้าและเป็นดั่งยารักษาแผลในใจ
แต่เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน จอกได้หายสาบสูญไป.......
ว่ากันว่ามันจมลงอยู่ใต้ทะเลสาบมรณะ
และเฝ้ารอคอยผู้กล้าที่จะเป็นผู้ครอบครองตน
ถ้าหากท่านอยากครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์......ก็ต้องฝ่ากลุ่มผู้พิทักษ์จอกศักดิ์สิทธิ์ไปให้ได้!!



ซีโร่ เฮนรี สวอนโร้ด




“นี่คือรายละเอียดเควสและอุปกรณ์ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับพวกคุณครับ”เจ้าของโรงแรมไมนัสส่งยิ้มให้คุณผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มผู้ร่วมเควส และส่งแผนที่เก่าๆใบหนึ่งกับปึกรายละเอียดเควสให้เธอ ก่อนที่จะหยิบหนังปกสีแดงเลือดนกจากใต้เคาท์เตอร์ส่งให้หนุ่มหน้าหวานผู้ส่งสายตาเย็นเยียบให้ซีโร่ตลอดเวลา


....ไม่สิ เขาส่งสายตาเย็นเยียบให้ทุกคนนั่นแล....


ซีโร่ยื่นถุงอุปกรณ์ขนาดใหญ่ให้ชายหนุ่มที่ทุกคนแอบตั้งฉายาตามที่กุญแจเรียกเขาเรียบร้อยว่า สาวน้อยเวทมนตร์


“นี่มันอะไรฟระ!”เรย์คุคลายปมที่มัดถุงแล้วเอาหัวสอดเข้าไปในถุงเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน


เจ้าของโรงแรมหัวเราะน้อยๆก่อนจะหันไปสบตากับมังกรตนเดียวในกลุ่ม


“ทำไมไม่มีของให้เรามั่งอ่ะ”เครมิสกระพริบตาแป๋ว เอียงคอน้อยๆ


“เพราะของที่ผมจะให้หมดแล้วน่ะครับ”ชายหนุ่มส่งยิ้มแห้งๆให้ ในใจคิดไปอีกอย่าง


ขืนให้ของคุณแล้วคุณกินเข้าไปก็บรรลัยสิครับ.....ของพวกนี้อายุเลยร้อยปีแล้วทั้งนั้น!


เครมิสส่งเสียงครางไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก


“เควสตามหาจอกนี้จะให้เวลาพวกคุณ 5 วันในการทำเควสครับ เพราะทะเลสาบมรณะอยู่ห่างจากโรงแรมค่อนข้างมาก พวกคุณควรจะเตรียมอุปกรณ์เดินป่าไปให้พร้อมด้วย เพื่อความสะดวกในการเดินทางนะครับ”ซีโร่อธิบายเพิ่มเติม โดยปิดบังผู้เข้าแข่งขันทั้งสี่เรื่องวาร์ปเปอร์ของโรงแรมไว้ เขาอยากให้ทั้งสี่เดินทางขัดเกลาประสบการณ์มากกว่าใช้วาร์ปเปอร์ไปถึงทะเลสาบเลยในชั่วอึดใจ


“แต่เราไม่มีอุปกรณ์เดินป่า”เด็กหญิงเรือนผมสีม่วงอ่อนยาว นัยน์ตาสีสีแดงทับทิม ผู้มีนามว่า ‘คลาวเดีย เดอ ฟรานเชส’ เอ่ยแย้ง


ยังไม่ทันที่ซีโร่จะตอบ เรย์คุก็ส่งเสียงดังให้เด็กสาวรู้ทันทีว่าอุปกรณ์เดินป่าจะหาได้จากไหน


“ของบ้าอะไรเยอะแยะ! พวกเราไม่ได้จะไปเดินป่าสักหน่อยนี่! จะให้เต้นท์มาด้วยทำไมสองหลังเนี่ย แล้วยังอุปกรณ์หุงอาหารอีก”ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ได้ฟังที่ซีโร่บอกเลยว่าต้องเดินป่าก่อนจะไปถึงทะเลสาบมรณะ น่าหนักใจจริงๆ


หลงเฟยมองไปรอบห้องโถง แล้วเอ่ยถามอีกประเด็นขึ้นมา


“พวกกุญแจไปไหน”


เจ้าของกุญแจที่เหลือต่างมองหากุญแจของตัวเองทันใด


“ไฟร์ไปไหนอ่ะ? ไปหาของกินรึเปล่า?”เครมิสว่าพลางก้มลงมองใต้โซฟาข้างๆเคาท์เตอร์เผื่อว่าคู่หูตนจะแอบมุดไปนั่งกินอะไรโดยไม่ชวนเขา


“Kเบย์มันไปไหนของมันเนี่ย....แต่ก็ดี....”จะได้ไม่โดนจับแต่งชุดสาวน้อยเวทมนตร์อีก วะฮะฮ่าฮ่า!!! เรย์คุหัวเราะในใจพลางผิวปากอย่างสบายอารมณ์


“เฟลอร์......”เด็กสาวกวาดสายตาหาเพื่อนของเธอ


หลงเฟยไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจากจ้องมองซีโร่เงียบๆ


“เควสนี้ไม่ให้กุญแจไปทำภารกิจด้วยครับ เพราะบริเวณทะเลสาบเป็นอาณาเขตที่ห้ามใช้เวทมนตร์ครับ”ซีโร่บอก


“งั้นหรอ......”คลาวเดียเงียบไปพักนึง ก่อนจะกางแผนที่ในมือดูเงียบๆ


เรย์คุชะโงกหน้าดูแผนที่กับเด็กสาวด้วย ส่วนเครมิสที่เหนื่อยกับการแหกปากหาจิ้งจอกไฟก็หยุดการค้นหาและมองแผนที่ในมือคลาวเดียอย่างสนใจ


“ไอ้แผ่นๆนี่กินได้มั้ย?”


ซีโร่ที่ยืนฟังอยู่แทบเอาหัวโขกเสาตรงเคาท์เตอร์


“มันกินไม่ได้หรอก”หลงเฟยบอกเสียงเย็นแล้วทรุดตัวนั่งที่โซฟา


ห้องโถงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าผู้เข้าแข่งขันก่อนที่จะออกไปทำเควส ดังนั้นจึงมีโต๊ะและโซฟาตั้งอยู่ตามมุมต่างๆของห้องโถงให้ผู้เข้ามานั่งตากแอร์สบายๆ


หนังสือในมือหนุ่มหน้างามกางออก กระดาษที่เหลืองและกรอบบ่งบอกถึงอายุที่ยาวนานของสิ่งของทำให้หลงเฟยต้องพลิกหน้ากระดาษอย่างเบามือ


ในเมื่อมีผู้ร่วมเควสสองคนช่วยอ่านแผนที่แล้ว เขาเองก็ควรจะอ่านรายละเอียดของจอกศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ตามหามันง่ายขึ้นบ้าง


เครมิสที่ไม่มีอะไรทำเริ่มน้อยใจ ทรุดตัวนั่งข้างๆพาร์ทเนอร์ตนแล้วเอานิ้วจิ้มไหล่เรียกความสนใจจากอีกฝ่าย


หลงเฟยเงยหน้ามองนิ่งๆ แล้วก้มอ่านหนังสือในมือต่อ


มังกรไฟพองแก้มด้วยอาการงอน เอานิ้วจิ้มวนๆบนโต๊ะที่ตั้งเป็นอยู่หน้าโซฟา พร้อมแผ่รังสีทะมึนเป็นออฟชั่นเสริมบ่งบอกว่ามังกรน้อยนั้นน้อยใจมากเพียงไร


ซีโร่ที่มองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ตลอดหัวเราะในลำคอ


“อืม......ถ้าออกจากโรงแรมก็ต้องตรงไปทางนี้แล้วก็....”คลาวเดียปรึกษากับเรย์คุอย่างจริงจัง แต่บางครั้งเรย์คุก็หลุดพูดอะไรแปลกๆ อย่างเช่น การอธิบายเปรียบเทียบสิ่งของและสถานที่เป็นหน่วยเปอร์เซนต์ทำให้เด็กสาวมึนหัว


หลังจากยืนปรึกษา (หรือเถียงกันแทบตาย) ไปประมาณสองชั่วโมง ผู้แกะแผนที่ทั้งสองก็หอบแฮกๆ ประสบความสำเร็จในการแกะแผนที่เก่ากึกอย่างงดงาม


คลาวเดียและเรย์คุเดินมาทรุดตัวนั่งโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับหลงเฟยและเครมิส


“ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”คลาวเดียถามหลงเฟยที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือเล่มเก่าที่ซีโร่ยื่นให้มาสองชั่วโมงเต็ม


เครมิสนึกว่าเด็กสาวถามตนจึงเลิกงอนแล้วส่งรอยยิ้มสดใสให้สาวเจ้า


“ไม่มีเรื่องอะไรนี่นา? แต่เราเริ่มหิวแล้ว.....”มังกรไฟฉีกยิ้ม ลูบท้องป้อยๆ เมื่อเช้าเด็กหนุ่มกินน้อยไปหน่อย ตอนนี้เลยเริ่มหิวแล้ว


หลงเฟยปิดหนังสือ บอกสั้นๆ


“ออกเดินทางกันก่อน แล้วข้าจะอธิบายให้ฟังระหว่างทาง”








“ว๊ากกกกกกก”เรย์คุกรีดร้อง ในป่าถัดจากโรงแรมไมนัส สภาพดูเหมือนป่าดิบชื้น ทากเกาะตามต้นไม้พุ่มเตี้ยๆเต็มไปหมด แล้วยังดินเฉอะแฉะที่ทำให้เสื้อกันทากสกปรกอีก ชายหนุ่มรับไม่ได้อย่างแรง


“นายหยุดโวยวายได้มั้ย? เดี๋ยวก็มีตัวอะไรโผล่ออกมาหรอก”คลาวเดียว่า


เรย์คุหยุดกรีดร้องทันที แต่ไม่วายทำสีหน้าสะอิดสะเอียนกับความสกปรกในป่าต่อไป


หลงเฟยมีสีหน้านิ่งสนิท ดีที่ก่อนเข้ามาในป่าเขารื้อเสื้อกันทากจากถุงอุปกรณ์ที่ซีโร่ให้เรย์คุไว้แล้วยื่นให้ทุกคนใส่ ไม่อย่างนั้นทากในป่านี้คงสนุกกับการดีดตัวมาเจาะเสื้อทะลุแล้วเกาะผิวดูดเลือดตามตัวของพวกเขาน่าดู


เครมิสมองสภาพป่าอย่างกระตือรือร้น ตอนแรกที่เด็กหนุ่มเห็นทากก็แทบจะกระโจนจับมันมาปิ้งเป็นอาหารยามว่าง ถ้าไม่ได้คลาวเดียดึงไว้ด้วยแรงเฮือกสุดท้าย.....ไม่อยากจะนึกถึงสภาพของทากพวกนี้จริงๆ....


“เอาเถอะ....เดินอีกสักครึ่งวันก็คงจะออกจากป่านี้ได้”คลาวเดียกางแผนที่ดู


“แล้วถัดจากป่าดิบชื้นนี่ก็จะเป็นป่าธรรมดาที่ไม่มีทากที่อาศัยอยู่ในที่ชื้นๆแล้วล่ะ”


คำพูดของเด็กสาวทำให้เรย์คุกลั้นหายใจวิ่งสี่คูณร้อยตรงแหน่วเป็นทางยาวด้วยความหวังว่าจะออกจากป่าดินชื้นก่อนเวลาครึ่งวันที่เด็กสาวกะคร่าวๆ


เครมิสหัวเราะกับท่าวิ่งของสาวน้อยเวทมนตร์แล้ววิ่งตามเรย์คุด้วยความเร็วสูงพอๆกัน


ครึ่งวันที่คลาวเดียบอก.....อาจจะกลายเป็นเวลาแค่สองชั่วโมงแทนซะแล้ว...

.
“อย่าวิ่งเร็วนักสิพวกนายน่ะ!”คลาวเดียตะโกนไล่หลัง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรส่งเสียงดังก็หุบปากฉับแล้วหันมากระซิบบอกหลงเฟย


“เธอเองก็รีบตามมาด้วยแล้วกันนะ ฉันเข้าใจว่าชุดรุ่มร่ามมันคงจะเคลื่อนไหวไม่ค่อยสะดวก แล้วเธอยังเป็นผู้หญิงอีก ....คงวิ่งตามพวกนั้นไม่ทันแบบฉันหรอก”ว่าแล้วเด็กสาวก็เร่งฝีเท้าใส่เกียร์สุนัขวิ่งด้วยความเร็วสูงตามทั้งสองคนก่อนหน้าไป


หลงเฟยที่กำลังจะเอ่ยแย้งว่าเขาเป็นผู้ชาย ถอนหายใจเบาๆ ...บอกไปคลาวเดียก็คงไม่ได้ยินแล้ว.....


ชุดของร่างบางไม่เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหวของเจ้าตัวสักนิด แต่เขาไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คนอื่นรู้ ชายหนุ่มออกวิ่งด้วยความเร็วสูง (ที่เป็นผลพวงจากการฝึกวิชากับน้องสาว) จนตามทันทั้งสามคนทันในเวลาไม่นาน


คลาวเดียประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวอีกคนในกลุ่มอาจจะวิ่งเร็วแบบเธอ เธอจึงเลิกสนใจและตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไป



สองชั่วโมงต่อมา.....


ทั้งสี่นั่งพักหอบหายใจอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในเขตป่าดิบแล้งถัดจากเขตป่าดิบชื้น


ดวงตะวันที่เคลื่อนผ่านตำแหน่งกลางศีรษะมาพักหนึ่ง บ่งบอกถึงช่วงเวลาบ่ายคล้อย ทำให้คณะเดินทางร้อนมากและถอดเสื้อกันทากออกคลายร้อนทันที


จะว่าไป....ยังดูไม่ครบเลยว่าในถุงมีของอะไรบ้าง....เรย์คุคิดพลางยัดเสื้อกันทากสี่ตัวเข้าไปในถุง มือหนามัดถุงแน่นหนาแล้วยกมันพาดบ่าเตรียมเดินทางต่อ


“อย่าเพิ่งไปซี่....เราหิว ~ ”เครมิสท้วง “หาอะไรกินก่อนเถอะน้า”


“นั่นสินะ....ฉันเองก็หิวแล้วเหมือนกัน เธอล่ะ?”คลาวเดียหันมาถามหลงเฟย


หลงเฟยส่ายหน้าเบาๆ มือรวบผมที่ยาวเหยียดของตัวเองแล้วสางเงียบๆ


เมื่อตอนที่ออกวิ่งเขาวิ่งเร็วไปหน่อย ผมเลยฟูไม่เป็นทรง เจ้าของเรือนผมสีฟ้าสดคิด มือสางผมไปเรื่อยๆ จนคลาวเดียออกปากถามอีกครั้ง


“เอายางมัดผมมั้ย? ปล่อยผมแบบนั้นร้อนจะตาย”เด็กสาวทำท่าจะหยิบยางมัดผมออกจากกระเป๋าให้


หลงเฟยส่ายหน้า เขาไม่ชอบรวบผมเท่าไหร่


“ไม่รวบแล้วปล่อยสยายเป็นคนบ้าแบบนี้น่ะหรอ.....เชื่อเขาเลย”เรย์คุแอบพึมพำ


“หยุดพักกินข้าวก่อนแล้วค่อยออกเดินทางต่อก็ได้”เรย์คุบอก ทำให้เครมิสกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ


เครมิสมองไปรอบๆหาสัตว์ที่คิดว่าจะเอามาปิ้งได้ “จะกินอะไรดีล่ะ?”


คลาวเดียถอดกระเป๋าเป้บนหลังแล้วหยิบกล่องโฟมสีขาวขนาดใหญ่ที่ไม่รู้ว่ายัดเข้าไปในกระเป๋าได้อย่างไรออกมา


เมื่อเปิดดูภายในกล่องก็พบกับเค้กประมาณห้าก้อนวางเป็นล็อกๆในกล่อง! โดยมีน้ำแข็งแห้งใส่อยู่รอบกล่องภายในไม่ให้เค้กเสีย


“โอ้โห....ไม่กลัวอ้วนเลยรึเปล่าเนี่ย....แม่เจ้า!”เรย์คุตกตะลึง


“ฉันเอามาเผื่อว่าจะอยู่ทำเควส 5 วันน่ะ ที่จริงแค่นี้ยังไม่พอด้วย ปกติฉันจะกินเค้กวันละสี่ปอนด์นะ”เด็กสาวว่าเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ


หลงเฟยมองด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อสางผมเรียบร้อยก็ลุกขึ้นเดินไปช่วยเครมิสหาสัตว์มาทำอาหารกลางวัน


“หาฟืนด้วย”ก่อนไปไม่ลืมทิ้งท้ายบอกเรย์คุ


ชายหนุ่มหน้าตึงกับคำบอกเชิงสั่งของหลงเฟย แต่ก็ยอมไปหาฟืนโดยดีเพราะกลัวไม่ได้กินข้าวกลางวัน








เมื่อทานอาหารเป็นกระต่ายป่าปิ้งเกรียมจนอิ่ม ทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อจนมาถึงริมทะเลสาบมรณะในเวลาพลบค่ำ


น้ำในทะเลสาบเป็นสีน้ำเงินแกมเขียวขุ่นๆ มองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆในทะเลสาบเลย แถมผิวน้ำยังผุดฟองอากาศขึ้นมาตลอดเวลาเหมือนกับทะเลสาบกำลังเดือด


“เอาไงดี?”เรย์คุถาม


“คืนนี้คงต้องกางเต้นท์นอนพักข้างทะเลสาบไปก่อนล่ะ”คลาวเดียตอบ


“ว้าวๆ แคมป์ไฟสินะ”เครมิสตบมือชอบใจ ทำเหมือนพวกเขามาเข้าค่ายพักแรมอย่างไรอย่างนั้น


“เฮ้อ”หลงเฟยถอนหายใจกับคำพูดไม่ค่อยปกติของพาร์ทเนอร์


ชายหนุ่มคว้าถุงจากเรย์คุมารื้อของออกมาดู แล้วแยกประเภท ดูเหมือนแม่บ้านที่ดีขึ้นมาทันควัน


คลาวเดียกับเครมิสต่างนั่งยองๆมองหลงเฟยจัดของอย่างสนใจ ส่วนเรย์คุยืนผิวปากมองอยู่ห่างๆ


หลงเฟยชี้นิ้วไปที่ห่อเต้นท์สองหลัง แล้วหันไปบอกเรย์คุ


“เอานี่ไปกางซะ”


คนโดนสั่งทำเสียงจิ๊จ๊ะ ไม่ค่อยเต็มใจทำนัก


“ไม่อย่างนั้นคืนนี้ก็นอนบนต้นไม้”หลงเฟยว่าเสียงเข้ม


ประโยคนั้นทำให้สาวน้อยเวทมนตร์รีบหยิบเต้นท์ไปกางทันที พวกรักอนามัยแบบเขาไม่ยอมนอนอย่างทุรกันดารเด็ดขาด


ขืนนอนบนต้นไม้ตอนกลางคืนคงยุงกัดจนเป็นไข้เลือดออกพอดี! แล้วยังกิ่งไม้สกปรกที่ไม่รู้ว่ามีแมลงมาชิ้งฉ่องแล้วรึเปล่าอีก!!! คนรักความสะอาดแบบฉันทนได้ซะที่ไหน อ๊ากกก


“เครมิส เจ้าไปหาฟืนกับสัตว์ที่กินได้มา ข้าจะทำมื้อเย็น”


มังกรไฟพยักหน้ารับแล้ววิ่งฉิวไปหาอาหารทันที


“หวังว่าเครมิสจะไม่จับเอากระจั๊วะมานะ”คลาวเดียภาวนา ถึงเธอจะชอบกินเค้ก แต่อาหารหลักอย่างเนื้อเพิ่มพลังงานเธอก็ยังทานอยู่นะ


“ถ้าเครมิสเอามา....แค่ไม่ปิ้งก็ไม่ต้องกินแล้วล่ะ”หลงเฟยเหลือบมองเด็กสาวเรียบๆ


“นั่นสินะ”คลาวเดียหัวเราะ


เด็กสาวมองคนที่ตนคิดว่าเป็นผู้หญิงอีกคนในกลุ่มแล้วถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเต้นท์ที่เรย์คุเริ่มกางเป็นรูปเป็นร่าง


“เต้นท์คุณซีโร่ใส่มาผิดรึเปล่า? เรานอนแยกเป็นหลังละสองคนไม่ใช่หรอ ทำไมเต้นท์หลังแรกถึงใหญ่กว่าล่ะ”


“หลังแรกสามคน ข้า เครมิส เรย์คุ ส่วนหลังที่สองของเจ้า”หลงเฟยตอบ


“แต่เธอเป็นผู้หญิงนะ จะนอนกับผู้ชายสองคนได้ยังไง”เด็กสาวทำสีหน้าปูเลี่ยน


“ข้าเป็นผู้ชาย”หลงเฟยแย้ง


คลาวเดียเกิดอาการช็อกชั่วขณะ









ห่างจากทั้งสองไม่มากนัก เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่เฝ้าอาณาเขตรอบทะเลสาบมาเป็นเวลายาวนาน มันรับรู้ถึงการมาของแขกไม่ได้รับเชิญทั้งสี่ พลางถอนหายใจแรงๆ และออกมาจากจากถ้ำที่อาศัย


ร่างสีดำใหญ่โตมีหัวสามหัวเป็นสุนัข เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้บริเวณที่พักของผู้บุกรุกอย่างเงียบเชียบ นัยน์ตาสีแดงฉานดุจดั่งไฟนรกจ้องมองผู้บุกรุกตาเป็นมัน หางที่เป็นหัวงูโบกสะบัดไปมา








หลงเฟยลุกขึ้นยืนทันทีที่รับรู้ได้ถึงการมาของสิ่งมีชีวิตรูปร่างใหญ่โตที่ไม่ใช่คนที่เหลือในกลุ่มที่ออกไปหาฟืน ชายหนุ่มพึมพำเรียกเคียวซึ่งเป็นอาวุธของตัวเองออกมา


คลาวเดียลุกขึ้นตามแล้วถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นผู้ร่วมเควสเรียกอาวุธออกมา


“อะไรงั้นหรอ?”


“มีอะไรกำลังใกล้เข้ามา”ร่างบางตอบเสียงเรียบ ทันใดนั้นตรงชายป่าใกล้ๆบริเวณที่เครมิสไปสำรวจมาเมื่อตอนมาถึงริมทะเลสาบใหม่ๆ แล้วบอกว่าเป็นถ้ำก็มีเสียงคำรามของสัตว์กึกก้อง


“อะไรกันน่ะ!!!”เรย์คุสะดุ้ง เผลอทำค้อนที่ตอกเสาเต้นท์ร่วงใส่เท้าตัวเองจนเจ้าตัวกุมเท้ากระโดดร้องด้วยความเจ็บ


เสียงแหวกต้นไม้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงครางฮือของสัตว์ที่มากับการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดสามหัวขนสีดำสนิท นัยน์ตาสีแดงลุกเป็นไฟ หางที่เป็นหัวงูแยกเขี้ยวขู่


“นะ...นั่นมัน.....ตัว...อะไรกันฟระ!!!....”เรย์คุอ้าปากค้าง พยายามเอ่ยถามเสียงสั่น


หลงเฟยหันกลับมาบอกเรียบๆ น้ำเสียงเฉยชาเหมือนไม่เห็นสัตว์ตรงหน้าอยู่ในสายตา


“เคลเบรอส.....”




----------To be Continue-----------


แก้ไขล่าสุดโดย RUMINA เมื่อ Tue May 01, 2012 11:55 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty TurnII

ตั้งหัวข้อ  Moose ClouDy Mon Apr 30, 2012 10:25 pm

จอง เควสหาของอีกรอบ

-----------------------------------------------------


TURN II




“เคลเบรอส!! ล้อเล่นน่า…สัตว์ประหลาดพรรค์นั้นเนี่ยน่ะ ถ้าอย่างนั้นก็แย่อ่ะดิ” เรย์ ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ



“เคลเบรอสๆๆ กินได้มั้ยอ่ะ”แน่นอนว่าเจ้าของประโยคนี้ไม่มีทางเป็นใครอื่น นอกจาก เครมิสที่กำลังมองไปที่เคลเบรอสด้วยสายตาเป็นประกายวาววับ



“ถึงมันจะกินได้ แต่นายก็ไม่ได้กินมันอยู่ดี เพราะเราฆ่ามันไม่ได้” ฉันพูดขึ้น ด้วยความเหนื่อยหน่ายใจเล็กน้อย



‘ให้ตายเหอะ ขนาดเคลเบรอส หมอนี่ยังไม่เว้นเลยหรอ’ แน่นอนว่าประโยคนี้ฉันได้แต่คิดในใจ ก่อนจะสลัดเอาเรื่องไร้สาระทิ้งไป
แล้วหยิบดาบของตนมากระชับไว้แน่น พร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ



“แล้วพวกเจ้าจะทำยังไงดีล่ะ ฆ่าก็ฆ่าไม่ได้ แล้วยังกินไม่ได้อีก”เครมิสพูดด้วยร้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไร
ที่ตนเองไม่สามารถกินเจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าได้


.



.



.



ความเงียบเข้าครอบงำทั่วทุกอาณาบริเวณในแถบนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็นิ่ง ไม่โจมตีหรือเคลื่อนไหวใดๆ ก่อนที่เคลเบรอสนั่น จะเอ่ยปากขึ้นทำลายความเงียบ



“มนุษย์ผู้โง่เขลา…พวกเจ้าเองก็มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่จอกน้ำศักดิ์สิทธิ์สิน่ะ…”เคลเบรอสพูดขึ้น เสียงของมันทั้งทุ้มต่ำ และแหบพร่า
สร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้คนที่ได้ยิน แต่…ก็คงต้องยกเว้นกลุ่มคนตรงหน้านี้ไว้ล่ะน่ะ เพราะคนทั้งสี่ที่ว่า กลับไม่มีทีท่ากลัวเกรงเลยแม้แต่นิดเดียว
แถมยังดูเหมือนจะ…ไม่ใส่ใจซะด้วยซ้ำว่าตอนนี้สิ่งที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ คือสัตว์ประหลาดในตำนาน




“ใช่ พวกเรามาตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ เจ้ารู้มั้ยว่ามันอยู่ที่ไหน” เรย์ตะโกนถามกลับไป



“ถ้าข้าบอกว่าข้ารู้ล่ะ พวกเจ้าจะทำยังไง”เคลเบรอสถามกลับไป แบบหยั่งเชิงเล็กน้อย



“ก็จะทำให้เจ้าบอกให้ได้ ว่ามันอยู่ที่ไหนไงล่ะ”หลงเฟยตะโกนตอบ ก่อนจะถีบตัวขึ้นพร้อมกับควงเคียวที่อยู่ในมือของตน
พุ่งเป้าไปที่หัวที่อยู่ตรงกลางของเคลเบรอส



หากแต่ยังไม่ทันที่จะโดนหัวของมัน เคลเบรอสก็หลบ ก่อนจะตวัดหางของตัวเอง หวังที่จะปัดหลงเฟยให้กระเด็นออกไป


หลงเฟยกระโดดหลบด้วยความว่องไว ก่อนจะกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง




“จะเอายังไงกันดีล่ะ จะสู้ จะคุย หรือจะหนี”เครมิสเสนอทางเลือกที่มีตอนนี้ขึ้น



แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบ เคลเบรอสก็พูดขึ้นมาก่อน “พวกเจ้าก็เหมือนมนุษย์ที่เข้ามาก่อนหน้านี้นั้นแหละ ไม่ว่าหน้าไหนๆ
ก็หวังจะมาเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ไป เพื่อขายเอาเงินสิน่ะ”



“พวกเราไม่ได้จะเอาไปขายสักหน่อย พวกเรามาตามหามัน เพื่อเอามันกลับไปตามเควสที่ได้มอบหมายมาต่างหาก!!”ฉันตะโกนตอบมันไป



“แล้วจะให้ข้าเชื่อได้ยังไง”เคลเบรอสคำรามถามออกมา



“ก็ไม่ได้บอกให้เชื่อนี่ครับ แค่ไม่อยากให้เข้าใจผิดเฉยๆ พวกเราไม่เหมือนพวกเห็นแก่เงินพวกนั้นหรอกน่ะ”เรย์พูดเสริมขึ้นมา



“หึ พวกเจ้าแปลกดีน่ะ ข้าถูกใจนัก เอาเป็นว่าข้าจะบอกวิธีเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเจ้าก็แล้วกัน ถือซะว่าเป็นของขวัญที่ไม่มีใครกล้ายืนเถียงกับข้าแบบนี้มาก่อน”คลเบรอสูดขึ้นด้วยเสียงอันดังก้องราวกับพึงพอใจในตัวมนุษย์ทั้ง 4 ที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก


“เจ้าพูดจริงหรอ”เครมิสถามขึ้นด้วยความดีใจ


เพราะพวกเค้าเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาจอกศักดิ์สิทธิ์นั่นได้ยังไง
พวกเค้ารู้แค่ว่า มันอยู่ในทะเลสาบมรณะก็แค่นั้น เพราะในข้อมูลที่ได้มา ก็มีแค่แผนที่เดินป่า หนังสือที่บันทึกเรื่องราวของบ่อน้ำมรณะและผู้พิทักษ์
ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรที่เป็นประโยชน์เอาซะเลย แล้วก็ข้อมูลวีรกรรมของมัน ที่ทำให้คนตายไปนับไม่ถ้วน (ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้มาทำไมกัน
จะให้พวกเค้าเลือกหรือไง ว่าอยากตายแบบคนไหนน่ะ -___-)



“อืม จอกศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าตามหาน่ะ อยู่ตรงใจกลางในส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบมรณะซึ่งมีผู้พิทักษ์ทั้ง 4 คอยปกป้องอยู่ และข้าก็เป็นหนึ่งในนั้น
ข้าน่ะ จะคอยดูบริเวณพื้นที่ห่างจากบ่อน้ำออกมาประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนผู้พิทักษ์ที่เหลือ จะอยู่ในบริเวณรอบๆของทะเลสสาบทั้งนั้น
ถ้าพวกเจ้าไปถึงก็จะเจอกับไซเรน ที่ประจำอยู่ที่โขดหินริมทะเลสาบ ไซเรนน่ะ มีเสียงที่ไพเราะมาก พวกเจ้าควรจะเลี่ยงที่จะสู้กับพวกมัน
แล้วถ้าผ่านจากตรงนั้นไปได้ ก็จะเจอกัปปะ พวกมันค่อนข้างขี้เล่นแต่ก็เจ้าเล่ห์ด้วยเช่นกัน และสุดท้าย คือฝูงเงือก พวกมันจะมีนิสัยดุร้ายกับคนแปลกหน้าและผู้ที่มุ่งร้ายกับมันเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเจ้าผ่านไปได้หมด ที่เหลือก็ง่ายแล้ว อ้อ ใช่ ทะเลสาบมรณะน่ะ มีพิษ และอีกอย่างจอกศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ลึกมาก
พวกเจ้าจะต้องกินพืชที่ขึ้นอยู่ริมบ่อ มันจะทำให้เจ้าหายใจในน้ำได้ แล้วยังช่วยป้องกันพวกเจ้าจากพิษอีกด้วย พืชนั่นจะมีสีเขียว รูปร่างเหมือนหัวใจ
จงระวังอย่ากินผิดอันล่ะ เพราะพืชที่เหลือส่วนใหญ่ที่ขึ้นริมบ่อน้ำ ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงทั้งนั้น” เคลเบรอสร้ายยาว จนจบ แล้วจึงสอดสายตามองพวกเราทุกคนที่นิ่งฟังอย่างสงบ



“ขอบใจมากน่ะ ที่ช่วยพวกเราน่ะ”ฉันเอ่ยขอบคุณ หลังจากที่เคลเบรอสบอกทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว


“เจ้าเป็นคนดีจังเลย ดีกว่า Kเบย์อีก ทำไมเจ้าถึงไม่มาเป็นกุญแจแทนน่ะ”เรย์พูดขึ้น ก่อนจะทำหน้ามุ่ย เมื่อนึกถึงกุญแจของตน ที่เอาแต่จะจับตนแต่งชุดสาวน้อยเวทมนต์


“เจ้าบอกเราแบบนี้ เจ้าต้องการอะไรกันแน่”หลงเฟยยังคงระแวงในการกระทำของเคลเบรอส ที่อยู่ๆก็ช่วยเหลือตน


“ข้าไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ ข้าแค่อยากลองเดิมพันกับพวกเจ้าดู ก็แค่นั้น”เคลเบรอสพูด ก่อนจะหันหลังแล้วหายเข้าไปในป่า


“เฮ้อ งั้นเราก็ออกเดินทางต่อกันเถอะ ฉันอยากกินไซเรน กัปปะ แล้วก็เงือกจัง”เครมิสพูดขึ้น ก่อนจะน้ำลายไหล เมื่อนึกถึงสัตว์ที่ตนกำลังจะไปเจอ


“นายกินมันไม่ได้ อย่าลืมสิ”ฉันเอ่ยเตือนสติเครมิสเบาๆ ก่อนจะเริ่มออกเดินทางต่อทันที


“อ๋า…แย่ที่สุดเลย”เครมิสทำหน้ามุ่ย ก่อนจะตะโกนเรียกเพื่อนในกลุ่มที่ออกเดินทางต่อโดยไม่สนใจเค้าเลยแม้แต่นิด “นี่ รอกันก่อนสิ!!”แล้ววิ่งตามไป

.


.


.



10 นาทีต่อมา ทั้งหมดก็มาถึงทะเลสาบมรณะที่ว่า

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของป่า กินอาณาเขตกว้างขวาง จนแทบจะไม่เห็นว่าทะเลสาบนี้จะไปสุดที่ไหน รอบข้างมีต้นไม้รกทึบขึ้นอยู่เต็มไปหมดและโขดหินเต็มไปหมดและ…ที่โขดหินที่อยู่ตรงริมทะเลสาบทางด้านซ้าย มีอะไรบางอย่างนั่งอยู่บนนั้น



“นั่นมันอะไรน่ะ”เรย์เอ่ยถาม ก่อนจะชี้นิ้วไปทางโขดหินนั้น เรียกให้ทุกสายตาหันไปมองตาม


“นั่นมัน…ไซเรนนี่”ฉันเอ่ยตอบ ก่อนจะสูดลมหาบใจเข้าลึกๆ



'ไซเรน' ที่ว่า มีรูปร่างคล้ายนางเงือกแทบทุกประการ เพียงแค่มีปีกเพิ่มเข้ามาเท่านั้น รูปร่างที่สวยงาม ที่หลอกล่อผู้คนมากมายมานักต่อนัก


“ถ้าเราฟังเสียงของไซเรนเข้าไป เราไม่รอดแน่ๆ”เครมิสเอ่ยขึ้น


“แล้ว…เราจะทำยังไงกันต่อล่ะทีนี้”ฉันถามก่อนจะมองทุกคน



“เราต้องหาทางที่จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงของมันซะก่อน ” หลงเฟยเอ่ยขึ้น


“ถ้าให้เราเอามืออุดหูไว้ เราก็คงจะต่อสู้ หรือเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกแน่”เรย์พึมพำออกมาเบาๆ


“ปัญหาก็คือ จะอุดหูยังไงสิน่ะ”เครมิสพูดขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะนิ่งเงียบ เพื่อหาทางที่ว่านั่น


“อ๊ะ จริงสิ ฉันมีที่อุดหูอยู่น่ะ”ฉันนึกขึ้นได้ ก่อนจะเปิดกระเป๋า เพื่อคุ้ยหาที่อุดหู


“หืม เธอพกที่อุดหูมาด้วยหรอ เอามาทำไมน่ะ”หลงเฟยถามด้วยความสงสัย


“ก็เวลากลางคืน ในป่าน่ะ มีเสียงพวกสัตว์ป่านี่ มันดังรบกวนแล้วฉันนอนไม่หลับน่ะ”ฉันอธิบาย ก่อนจะหยิบที่อุดหูที่พกมาด้วยขึ้นมา ส่งให้ทุกคน คนล่ะคู่


“นี่เธอเอามาเยอะแค่ไหนกันเนี่ย”เครมิสถามต่อ หลังจากเห็นกล่องใส่ที่อุดหูที่อยู่ในมือฉัน


“ที่อุดหูพวกนี้น่ะ เป็นแบบใช้แล้วทิ้งน่ะ ฉันก็เลยเอามาหลายคู่หน่อย”ฉันตอบ ก่อนจะเก็บตลับที่อุดหูกลับใส่กระเป๋าแล้วรูดซิปปิด


“ดีจัง ฉันชอบ แบบนี้จะได้ไม่มีเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่น หรือไวรัส ที่จะส่งผลเสียต่อร่างกาย”เรย์พูดขึ้นด้วยความพอใจ


“ในเมื่อเราไม่ได้ยินเสียงมันแล้ว ก็ไปกันเลยเหอะ”ฉันพูด


ทุกคนพยักหน้า แล้วใส่ที่อุดหู ก่อนจะเตรียมพร้อม ที่จะเผชิญหน้ากับ ไซเรน





‘หึ ต่อให้เป็นไซเรน ฉันก็ไม่กลัวหรอกน่า’



TBC
-----------------------------------------------------------------------------


แก้ไขล่าสุดโดย Moose ClouDy เมื่อ Tue May 01, 2012 11:06 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
Moose ClouDy
Moose ClouDy

จำนวนข้อความ : 73
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  Zetsubou Semi Mon Apr 30, 2012 10:27 pm

โอยเหนื่อย...ทั้งหมดเกือบ18,000ตัวอักษร orz...

อาจจะจัดหน้าแปลกๆหรือมีคำผิดบ้าง ขออภัยด้วยนะคะ







**********************************











Turn 3










หลังจากที่พวกเราสวมที่อุดหูของคลาวเดียแล้วก็พร้อมใจกันเดินย่ำต๊อกฝ่าโคลนเลนไปยังริมทะเลสาปมรณะ

อ๊ากกก ผมอยากจะเป็นลม แถวนี้มีแต่โคลน โคลน โคลน แล้วก็โคลน!! ในนั้นมันต้องอุดมไปด้วยเชื้อโรคและแบคทีเรียแน่ๆ นี่ผมต้องเดินย่ำมันไปจริงๆเหรอเนี่ย
ผมทำเบะปาก หน้าบึ้งจนไม่รู้จะบึ้งยังไงแล้ว แต่ก็ทำใจเดินผ่านมันไป


ริมทะเลสาปเต็มไปด้วยโขดหินและโคลนเลนเละๆ พร้อมกับมีพืชสีแปลกประหลาด เขียว เหลือง แดง ม่วง ดำราวกับขบวนการเรนเจอร์ห้าสีก็มิปาน งอกตามโขดหินและตามพื้น



แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของพวกเราก็คือ นางเงือกตนหนึ่งที่นั่งบนโขดหิน เธอมีท่อนบนคล้ายมนุษย์ทุกประการ ผิวสีขาวซีดราวกับลิขวิดเปเปอร์ หน้าอกคัพGขนาดมหึมา

ใบหน้ารูปไข่ ผมสีบลอนด์ที่ดูยังไงก็สีไข่เจียว หา? ทำไมถึงบอกว่าเป็นสีไข่เจียวน่ะเหรอ ก็เพราะมันสีไข่เจียวไง อะไร? ไข่เจียวสีไม่เหมือนกัน ก็ไข่เจียวระดับมีเดียมแรร์ไง

อย่าถามอีกนะว่าทำไมไข่เจียวมีมีเดียมแรร์ด้วย บ้านผมเวลาทำกับข้าวมีแบ่งระดับไข่เจียวสุก มีปัญหาอะไรมั้ย? ..เฮ้อ...ก็ได้ๆ โอเคๆ เปลี่ยนคำบรรยายก็ได้

อืม...สีเหลืองเข้มที่ใช้โค้ดสีเป็น#FFCC33 หา? ไม่รู้จักโค้ดสี เซิร์ทกูเกิ้ลสิฟะไอ้พวกบ้า! ตั้งใจเซิร์ทหน่อยก็เจอแล้ว เลิกถามซอกแซกซะที




…อ่ะแฮ่ม!! เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะ



อ่าใช่ๆ อาเจ๊นางเงือกหน้าอกดินระเบิดที่ชวนให้คนเห็นหัวใจวายตายนั่นมีผมสีบลอนด์ยาวถึงหน้าอก ปิดจุดสำคัญเอาไว้ได้พอดีเป๊ะ ท่อนล่างเป็นครีบปลาสีน้ำเงิน
ดูๆแล้วเหมือนกับนางเงือกในนิทานสำหรับเด็ก เพียงแต่มีปีกขนนกสีดำขนาดใหญ่งอกอยู่กลางหลัง เธอคือไซเรนนั่นเอง



ไซเรนสวยขนาดที่ไม่ต้องร้องเพลงก็ยั่วยวนให้หนุ่มๆหลงใหลเป็นพรวนแล้ว แต่ทว่า…พวกเรานั้น...


คลาวเดีย เธอเป็นผู้หญิง จะไปสนผู้หญิงด้วยกันได้ยังไงเล่า!


หลงเฟย เขาทำหน้าเรียบเฉยทั้งแต่มาที่นี่จนเห็นหน้าไซเรนก็ยังนิ่งสนิทเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง


เครมิส เขาเอียงคอนิดๆทำท่าทางเหมือนจะถามว่า ‘กินได้มั้ย?’


ส่วนผมนะเหรอ..เฮอะ! ผมสนแค่สาวน้อยโลลิเตี้ยแบนแว่นซึนโพนี่เทลล์เท่านั้นแหล่ะ! สเป็คผมไม่ใช่อาเจ๊หน้าอกดินระเบิดที่ทำท่าทางยั่วสุดฤทธิ์
แถมยังเหมือนปลาก็ไม่ใช่ นกก็ไม่เชิงหรอกนะ



ไซเรนหลับตาพริ้มก่อนจะทำท่าอ้าปากราวกับร้องเพลงอยู่ แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเธอ เพราะพวกเราใส่ที่อุดหูกันหมดแล้ว วะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!

และโชคดีที่ไซเรนมัวแต่หลับตาร้องเพลงอย่างเดียว จึงไม่ได้สังเกตุเห็นพวกเรา พวกเราเลยเดินผ่านเธอไปได้แบบสบายๆ

ต่อไป ก็ต้องไปหาพืชที่สีเขียว ใบเหมือนหัวใจที่เซอร์เบอรัสบอกสินะ

พวกเราแยกย้ายกันไปหาพืชตามโขดหินและริมแม่น้ำ(แน่นอนว่าต้องไม่ใช่แถวๆที่ไซเรนอยู่)

ผมกวาดตามองไปยังพืชเรนเจอร์ห้าสีที่ขึ้นตามพื้น ไม่นานนักผมก็พบเข้ากับพืชสีเขียว มันมีลำต้นสั้นๆ ใบเป็นรูปวงรีมีรอยบุ๋มตรงกลาง ดูๆแล้วคล้ายกับรูปหัวใจ


คงจะเป็นอันนี้ละมั้ง?



ผมดึงมันออก เนื่องจากลำต้นและรากของมันไม่ค่อยแข็งแรงจึงดึงออกได้สบายๆ


คลาวเดียโบกมือเรียกทุกคนมารวมตัวกัน ในมือของเธอมีพืชสีเขียวอยู่ด้วย คงจะหาเจอแล้วเหมือนกันสินะ


พวกเราหยิบพืชที่เก็บมาได้โชว์ให้แต่ละคนดู

ของคลาวเดียและหลงเฟยเป็นพืชสีเขียวที่ลักษณะเหมือนกับที่ผมเก็บมาเป๊ะ อืม..น่าจะถูกต้นแล้วล่ะ

ส่วนของเครมิส ..เขาถือพืชสีเขียวใบรูปหัวใจนั่นเหมือนกัน แต่ทว่าใน’กอง’พืชที่เขาเก็บมานั้นมีพืชเรนเจอร์ห้าสีครบทุกรูปแบบ
ดูท่าจะเก็บมามั่วๆ เขามองไปที่กองพืชเรนเจอร์แล้วทำสีหน้าประมาณว่า’กินได้รึยัง?’ทำเอาหลงเฟยรีบแย่งพืชเรนเจอร์ทั้งหมดในกองของเครมิสไปทิ้ง



โอเค.. เหมือนจะว่าได้ครบทุกคนแล้วสินะ



ทันใดนั้น ผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้


ผมรีบหยิบสมุดโน้ตและเขียนลงไปจากนั้นก็ยื่นให้ทุกคนอ่านข้อความในสมุดโน้ต

‘ลงไปในน้ำแล้วพวกเราจะสื่อสารกันยังไง บนบกยังพอเขียนคุยกันได้ แต่ในน้ำล่ะ?’


เนื่องจากพวกเราสวมที่อุดหูอยู่ จึงไม่ได้ยินเสียงคนอื่น และไม่มีใครกล้าถอดที่อุดหูเพราะไม่ทราบแน่ชัดว่าเสียงของไซเรนนั้น

ดังถึงบริเวณไหนไม่แน่ว่าอาจจะดังไปถึงใต้น้ำก็ได้ ไม่แน่ว่าในน้ำอาจจะมีนางเงือกที่ร้องเพลงล่อลวงคนได้อีก ตอนนี้พวกเราจึงได้วิธีเขียนคุยกันและใช้ภาษามือ


คลาวเดียพยักหน้าเห็นด้วยและเขียนข้อความตอบกลับมา ‘อืม นั่นสินะ จะใช้ภาษามืออย่างเดียวก็อาจจะเข้าใจไม่ตรงกันได้’



หลงเฟยนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหยิบถุงกันน้ำที่ซีโร่ให้ออกมาคุ้ยของข้างในดู

ไม่นานนักเขาก็เจอของ แล้วหยิบขึ้นมาให้ทุกคนดู มันเป็นสมุดโน้ตปกอ่อนสีดำเล็มเล็กๆพร้อมปากกาเสียบอยู่ตรงสันปก

ใบหน้าของผม คลาวเดีย และเครมิสเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามหลงเฟยจึงรีบเขียนอธิบาย’มันคือ*สมุดโน้ตกันน้ำ กับปากกากันน้ำ ใช้เขียนคุยกันใต้น้ำได้’


(*Semi:สมุดโน้ตกันน้ำมันคือสมุดที่ใช้สำหรับเขียนใต้น้ำอ่ะค่ะ พอดีเคยเห็นสารคดีนักดำน้ำใช้กัน ไม่รู้มันเรียกว่าอะไรorz…)



ผม คลาวเดีย และเครมิสพร้อมใจกันพยักหน้าหงึกหงัก ซีโร่นี่รู้ใจจริงๆแฮะ ขนาดสมุดโน้ตกันน้ำก็เตรียมมาให้


พวกเราวางสัมภาระเอาไว้ริมต้นไม้ และหยิบเฉพาะของที่จำเป็น เช่นไฟฉาย สมุดโน้ตกันน้ำ และอาวุธ ต่างๆใส่ถุงกันน้ำแล้วเดินไปยังริมทะเลสาป


แล้วผมก็สังเกตุเห็นลักษณะของทะเลสาปมรณะได้อย่างชัดเจน มันเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ถ้าไม่ใช่ว่าผมรู้มาก่อนว่าจริงๆแล้วมันคือทะเลสาปผมอาจจะนึกว่ามันเป็นแม่น้ำก็ได้


ลักษณะน้ำของมันก็สมชื่อ’มรณะ’จริงๆ น้ำสีดำทะมึนขุ่นคลักที่ซ่อนสัตว์ร้ายนานาชนิดดูแล้วชวนให้ขนลุกขนพอง

แต่แน่นอนว่าผมไม่ได้กลัวสัตว์หรือลักษณะน้ำหรอก สิ่งที่ผมกลัวนะคือเชื้อโรค!!




โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอดจอร์จตกบันได! นี่ผมต้องลงไปในน้ำสีทะมึนๆนี่จริงดิ!? ไม่รู้ว่าในนั้นจะมีแบคทีเรียกี่ชนิด อ๊ากกกกกกก ~~!! แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!!!!!



เหมือนคลาวเดียจะสังเกตุเห็นสีหน้าบูดเบี้ยวนี่ไม่รู้จะบูดยังไงของผมเลยตบบ่าผมเบาๆ ทำท่าทางประมาณว่า’นายทำใจเหอะ’

เครมิสนี่เห็นน้ำแล้วก็ทำสีหน้าตื่นเต้นดีใจแล้วตะโกนว่า”ว้าว! เรย์รารูโว คลาวเดียนีเย่ หลงเฟยริโก้! ภายในทะเลสาปนี่ดูน่าตื่นเต้นดีเนอะ~!”

เอิ่ม.. สีหน้ากับท่าทางเขาแสดงชัดจนขนาดที่ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรก็ยังเข้าใจเลยนะเนี่ย….


หลงเฟยยังคงทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิมก่อนจะเด็ดใบไม้รูปหัวใจสีเขียวจากพืชที่เก็บมา เคี้ยวๆกลืนแล้วกระโดดลงน้ำดังตู้ม!ไปอย่างไม่ลังเล

เมื่อคลาวเดียกับเครมิสเห็นดังนั้นก็รีบหยิบใบไม้รูปหัวใจเข้าปากเคี้ยวๆกลืนแล้วกระโดดน้ำดังตู้มมม!!!ราวกับระเบิดลง

(คาดว่าที่เสียงดังขนาดนี้มาจากน้ำหนักเครมิส)ตามหลงเฟยไปในทันที


สุดท้ายก็เหลือแค่ผมยืนทำใจริมทะเลสาปอยู่คนเดียว

เอ่อ…หวังว่าใบไม้สีเขียวนั่นนอกจากจะทำให้หายใจใต้น้ำ กันพิษได้แล้ว น่าจะกันเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ด้วยนะ

ผมมองน้ำสีดำทะมึนๆนั่นอีกรอบ


เอาก็เอาวะ!!!!!


ผมทำใจเคี้ยวใบไม้รูปหัวใจกลืนแล้วหลับตาปี๋กระโดดลงน้ำไปทันที

.
.
.
.
.
.
.
.
.


แหวะ ใบไม้นี่รสชาติห่วยเป็นบ้า !

ขนาดผมฝืนใจกลืนมันไปอย่างรวดเร็วยังมิวายมีรสชาติขมๆฝืดคอติดอยู่ที่ลิ้น




ใบไม้นั่นออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรผมก็สามารถหายใจเข้าออกใต้น้ำได้ตามปกติเหมือนอยู่บนบก และมองเห็นสภาพใต้น้ำที่ดำมืดนั่นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ผมดำน้ำลงไปซักพักก็เห็นเจ้าของผมสีแดงเหมือนถังดับเพลิงที่วางไว้ตามบันไดหนีไฟกำลังโบกมือให้ผมอย่างคึกคัก



ผมสีแดงแรงสามเท่าแบบนี้เป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากเครมิสนั่นเอง



เมื่อผมว่ายเข้าไปใกล้ๆ เครมิสก็ชูโน้ตในมือให้ผมดู ตัวอักษรบนโน้ตเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อยมีใจความว่า…

‘เจ้ากับเครมิสไปสำรวจแถวนี้ซะ ส่วนข้ากับคลาวเดียจะไปสำรวจอีกฝั่ง’



ลักษณะการเขียนแบบนี้คนเขียนคือหลงเฟยชัวร์ ชิ! ยังชอบสั่งคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะ



ผมพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงเข้าใจให้เครมิส แล้วพวกเราก็ดำน้ำลงไปสำรวจด้วยกัน


พวกเราดำลงไปได้ประมาณ10นาทีกว่าๆ ทัศนียภาพตลอด10นาทีนั้นมีแต่ ปลาตัวเล็กๆ น้ำสีขุ่นๆ สาหร่าย สาหร่าย สาหร่าย แล้วก็สาหร่าย! ไม่พบอะไรทั้งนั้น!



ไหนว่าทะเลสาปมรณะไงฟะ นึกว่ามันจะเต็มไปด้วยมอนสเตอร์อันตรายซะอีก ไม่เห็นมีอะไรเลย มีแต่สาหร่าย! ทำไมไม่ชื่อทะเลสาปสาหร่ายไปเลยเนี่ย!

ผมบ่นในใจด้วยความหงุดหงิด


ไม่รู้ว่ามอนเตอร์รู้ความคิดของผมหรืออย่างไร ทันทีที่ผมบ่นในใจจบก็มีสิ่งมีชีวิตบางอย่างพุ่งเข้ามาที่ผมกับเครมิส!



สิ่งมีชีวิตตัวนั้นพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง โชคดีที่เครมิสไวกว่าใช้มือที่มีกรงเล็บมังกรอันแข็งแกร่งงอกออกมาตวัดกันเอาไว้ได้ทัน


เจ้าตัวที่พุ่งมาแบบดับเครื่องชนเมื่อกี้จึงหยุดกระทันหันแล้วว่ายหนีกลับไปตั้งหลัก แล้วผมก็ได้สังเกตุเห็นลักษณะของมันชัดๆ

มันเหมือนเต่าที่มีหัวและแขนขายาวกว่าปกติ มีกระดองเต่าอยู่ด้านหลัง ร่างกายผอมแห้งติดกระดูกเหมือนไปผจญภัยในทะเลทรายซาฮาร่ามา10ปี

มีมือและเท้าเหมือนมนุษย์เพียงแต่นิ้วมือและเท้าของมันมีผังผืดช่วยให้ว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ที่ปากมีจงอยอันแหลมคม

คาดว่าถ้าเครมิสใช้กรงเล็บกันไม่ทันเมื่อกี้ละก็มันอาจจะพุ่งทะลุตัวผมกับเครมิสไปแล้วก็ได้ ทั้งตัวของมันเป็นสีเขียวเหมือนชาเขียวกรีนทีลาเต้

ที่ผสมชาเขียวผงเข้มข้น60% น้ำ40% นมผง 10% น้ำตาล5% ปรุงแต่งสีและกลิ่นธรรมชาติ แต่คิดไปคิดมามันได้115%นี่นา

งั้นต้องคิดใหม่ ผสมชาเขียวซัก……..





เฮ้ย! เดี๋ยวนะ นี่ผมถึงไหนแล้วเนี่ย !?





อ่าใช่ๆ เจ้าตัวที่สีเขียวอื๋อทั้งตัวเหมือนเอเลี่ยนจากดาวนาเม็กแถมมีกระดอง ผังผืด และจงอยปากนี่คือปีศาจกัปปะในตำนานบ้านเกิด(ญี่ปุ่น)ของผมนั่นเอง!



ที่สำคัญ… ที่คอของเหมือนเหมือนห้อยสร้อยคออะไรซักอย่างไว้ เมื่อสังเกตุดีๆมันเป็นสร้อยเส้นเล็กสีเงินสีคล้องไว้กับวัตถุคล้ายแก้ว มันมีสีทองส่องประกาย

พร้อมลวดลายแกะสลักอย่างปรานีตทั่วใบแก้ว




นี่มัน…แก้วที่น่าจะราคาแพงหูดับตบไหม้ ถ้าเอาไปขายในงานประมูลละก็รวยเละแน่ๆ!




เฮ้ย!!? ใช่ที่ไหนเล่า!
แก้วนั่น… มันคือจอกศักสิทธิ์ที่พวกเราตามหาอยู่นี่นา! งั้นกัปปะตัวนี้ก็คือผู้พิทักษ์สินะ

เครมิสอาศัยจังหวะที่กัปปะถอยหนีไปชักดาบคู่ออกมา ใบดาบส่องประกายสีเงินใต้น้ำ มีอักขระโบราณที่ผมอ่านไม่ออกสลักเอาไว้บนตัวดาบ

แม้ว่าท่าเตรียมต่อสู้ของเขาจะดูเท่สุดๆไปเลยก็ตาม แต่ตาของเขาเบิกกว้างอย่างตื่นเต้นดีใจของเจ้าตัวนั้นสื่อความหมายออกมาได้ว่า

’เจ้าตัวนี่กินได้มั้ยอ่ะ? ดูน่ากินจังเลย!!’นั้นขัดลูกตาอย่างแรง




เอ่อ..เครมิส ขนาดฉันใส่ที่อุดหูแล้วยังเหมือนได้ยินเสียงนายพูดออกมาเลยอ่ะ…




แล้วผมก็ไม่รอช้า ชักอาวุธของผมออกมาด้วย มันคือดาบ*วากิซาชิที่ปกติจะไม่ใช้ต่อสู้ แต่มีไว้สำหรับทำพิธีคว้านท้อง

แน่นอนว่าผมไม่ได้เอามาคว้านท้องตัวเองหรอกเอามาคว้านท้องมอนสเตอร์ต่างหาก!

(*วากิซาชิ=ดาบญี่ปุ่นแบบสั้น มีความยาวตั้งแต่12 นิ้วถึง 24 นิ้ว)


แต่มีกฎห้ามไม่ให้ฆ่ามอนสเตอร์ที่นี่ ความคิดที่จะพุ่งเข้าไปจ้วงท้องมอนสเตอร์ของผมจึงเป็นหมันไปโดยปริยาย

ถึงจะจ้วงท้องมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยตัวดาบที่ไม่ยาวมากและใบดาบที่มีคมเดียวก็ทำให้ต่อสู้ใต้น้ำได้สะดวกขึ้นละน่า!


ในขณะที่ผมตั้งท่าเตรียมตัวพร้อมกับคิดไร้สาระอยู่นั้นกัปปะจ้องมาที่ผมกับเครมิสตาเป็นมัน

ราวกับเห็นอาหารชั้นเลิศในโรงแรม5ดาวราคาแพงหูฉี่แต่มีคนเลี้ยงเลยสบายกระเป๋าตังค์ โดยไม่สนใจอาวุธในมือของพวกเราแม้แต่น้อย




อืม... ถ้าผมโยนแตงกวาให้มัน มันจะยอมตอบแทนด้วยการให้ไอเท็มกลับมาเหมือนในเกมฮาเวสมูนมั้ยอ่ะ?



ถึงผมจะพกแตงกวามาเผื่อเจอกัปปะก็เถอะ แต่ว่าไม่นึกว่าจะเจอจริงๆแถมผมยังพกมาแค่ผลเดียวด้วย ว่ากันว่ากัปปะชอบกินแตงกวามาก

ขนาดที่ทิ้งเหยื่อของตัวเองไปกินแตงกวาแทน ผมยังไม่อยากเสี่ยงด้วยการโยนแตงกวาที่เป็นเหมือนไอเทมช่วยชีวิตของผมตอนนี้ทิ้งไปหรอกนะ

เพราะว่าพวกเราต้องเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ที่แขวนอยู่บนคอของมันก่อน!


หลังจากเล่นจ้องตากับกัปปะมาได้สักระยะหนึ่ง มันก็ตัดสินใจพุ่งเข้าโจมตีพวกเราด้วยความเร็วสูงจนเกิดคลื่นน้ำแรงกระแทกขนาดย่อมขึ้นมา

ตอนแรกเครมิสตั้งใจปล่อยลูกไฟกลับไปแต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่าบริเวณนี้ใช้เวทย์ไม่ได้ จึงตวัดดาบให้เกิดคลื่นน้ำกลับไปอย่างรวดเร็ว


เพื่อลดแรงกระแทกแต่ทว่าก็ไม่สามารถกันแรงอัดทั้งหมด

เขาลอยกระเด็นไปตามแรงน้ำเกือบ3เมตรก่อนจะก็หมุนตัวกลับถีบโขดหินที่อยู่แถวนั้นส่งแรงเข้าปะทะกับกัปปะได้ทัน



ผมอาศัยจังหวะนี้รีบเขียนแผนการอธิบายให้เครมิสอ่านลงในสมุดโน้ต ถึงการเขียนโน้ตระหว่างที่เพื่อนร่วมทางยังฟัดกับมอนสเตอร์อยู่จะไม่ใช่การกระทำที่ดีนักก็ตาม

แต่ผมจำเป็นต้องอธิบายแผนการนี้กับเครมิสก่อนที่จะไม่มีโอกาส



เมื่อเขียนเสร็จผมก็ฉีกหน้ากระดาษนั้นแล้วพุ่งทะยานไปหาเครมิส พืชรูปหัวใจนั่นนอกจากจะกันพิษ

ช่วยให้มองเห็นและหายใจใต้น้ำได้แล้วยังสามารถช่วยให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้นอีกด้วย


จังหวะที่กัปปะกำลังจะใช้มืออีกข้างที่เต็มไปด้วยผังผืดและเล็บอันแหลมคมทะลวงผ่านสีข้างของเครมิส

ผมก็ใช้มือซ้ายเอากระดาษโน้ตที่เขียนคำอธิบายแผนการแปะหน้าเครมิสและใช้มือขวาตวัดดาบวากิซาจิไปขวางมันได้ทันท่วงที


ถึงผมจะใช้มือเดียวก็เถอะ แต่เนื่องจากผมหันด้านคมดาบใส่มัน เมื่อคมดาบแหวกผ่านน้ำในแนวดิ่งทำให้ความเร็วและความแรงของมันเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

กัปปะชักมือหนีแต่ไม่ทัน ผังผืดที่แผ่ขยายไปทั่วมือของมันจึงโดนตัดครึ่ง



กัปปะอ้าปากกรีดร้องอย่างเจ็บปวด โชคดีที่พวกเราใส่ที่อุดหูไว้ ไม่งั้นเสียงร้องระยะประชิดของมันทำพวกเราแก้วหูแตกตายแน่

เลือดสีน้ำเงินไหลทะลักออกมาจากบาดแผลของมันละลายไปกับสายน้ำทั่วทั้งบริเวณ



มันจ้องมาที่ผมอย่างโกรธแค้นประหนึ่งผมไปฆ่าญาติโกโหติกาของมันมา ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเครมิสมาที่ผมแทน


เครมิสอ่านโน้ตของผมเสร็จแล้วก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะว่ายน้ำอ้อมไปแสตนด์บายด้านหลังกัปปะ กัปปะที่คลั่งแทบบ้านั้นไม่สังเกตุเห็นเครมิส

จึงใช้กรงเล็บแหลมคมจากมืออีกข้างตวัดมาที่ผมอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนคมดาบ ผมที่ยังหาจังหวะโต้ตอบไม่ได้จึงได้แต่หลบหลีกไปมา


ฉัวะ!!!


สุดท้ายผมก็หลบไม่พ้น กรงเล็บอันแหลมคมของมันตะบบเข้าให้ที่เอวผม ผมกัดฟันทนความเจ็บปวด พยายามที่จะไม่สนใจแผล

ก่อนจะอาศัยจังหวะที่มันได้ใจนั้นแทงดาบเข้าไปในท้องของมัน

ฉึก!!!



คมดาบแหวกน้ำไปอย่างรวดเร็วและปักเข้าที่ท้องของกัปปะ แม้มันจะไม่ทำให้ถึงตายแต่คงเจ็บน่าดู

มันกรีดร้องโหยหวนอีกครั้งก่อนจะสะบัดหัวไปมาราวกับพยายามไล่ความเจ็บปวดแล้วตะปบกรงเล็บมาหาผมอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง


เครมิสเห็นดังนั้นก็ได้จังหวะ ใช้กรงเล็บของเขากระชากสร้อยเส้นเล็กที่คอกัปปะขาดออกในทันที

แต่ดูเหมือนเขาจะกระชากแรงไปหน่อยเลยปรากฎเป็นรอยกรงเล็บยาวลึกที่คอกัปปะ มันรีบหับกลับไปด้วยความตกใจก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง

(แต่พวกเราไม่ได้ยิน)ด้วยความโกรธแค้นและใช้กรงเล็บพุ่งทะยานไปที่ร่างของเครมิสแต่เขาใช้ใบดาบรับเอาไว้ได้ทัน

ผมอาศัยจังหวะนี้ว่ายเข้าไปเก็บจอกศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกตัดขาดขากสร้อยและกำลังลอยเคว้งคว้างไปมาในน้ำ




เอาล่ะ! มิชชั่นคอมพลีท!


ผมแสยะยิ้มก่อนจะหยิบ’ไพ่ตาย’ของผมออกมา แล้วว่ายน้ำกลับไปหากัปปะกับเครมิส



ฮัลโหลลลล เห็นไอ้นี่มั้ยย ~~??



ในขณะที่หนึ่งกัปปะ หนึ่งมังกรกำลังฟัดกันอย่างเมามันส์ ผมก็เอาพืชที่เป็นไม้เลื้อยในวงศ์ Cucurbitaceae มีลักษณะกลมยาวสีเขียว

หรือก็คือ…แตงกวา โบกไปมาหน้ากัปปะ


กัปปะชะงักกึกราวกับแผ่นCDกระตุก ก่อนจะจ้องมองแตงกวาด้วยสีหน้าเหมือนรักแรกพบ ตาโตน้ำลายยืด แก้มสีเขียวเจือไปด้วยสีชมพู

พร้อมเอฟเฟ็ครูปหัวใจเลิฟๆลอยไปทั่วทั้งบริเวณ ลืมคู่ต่อสู้ไปโดยทันที



ไปคาบมาเลยไอ้หนู!!


เนื่องจากขว้างของใต้น้ำมันจะไปได้ไม่ไกล ผมจึงใช้วิธีถือแตงกวาท่าพุ่งหลาวแล้ว’พุ่ง’มันไปสุดแรงเกิด

กัปปะเห็นดังนั้นก็รีบพุ่งตัวตามแตงกวาไปเหมือนกับน้องหมาวิ่งหาจานร่อน



เมื่อกัปปะได้แตงกวาแล้วก็ว่ายน้ำหนีไปราวกับกลัวว่าจะมีใครมาแย่งแตงกวา ดูท่ามันคงจะไปหาที่ปลอดภัยเพื่อนั่งกินแตงกวาอย่างสบายอารมณ์ละมั้ง


เมื่อเห็นกัปปะว่ายน้ำไปพ้นสายตาพวกเราแล้ว ผมกับเครมิสก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ผมสำรวจบาดแผลตัวเอง อ๊ากก เจ็บโคตรๆ! ดูเหมือนบาดแผลจะลึกไม่ใช่เล่น แถมพอสัมผัสน้ำเย็นๆ ในนี้อีกทำเอาแสบจี๊ดไปถึงทรวง

โชคดีที่พืชรูปหัวใจที่กินเข้าไปมันช่วยกันพิษได้ ไม่งั้นป่านนี้ผมอาจจะโดนพิษ เชื้อโรค และแบคทีเรียเฮโลเข้าไปลัลล้าในบาดแผลให้ติดเชื้อตายแล้ว


เครมิสมองบาดแผลด้วยความเป็นห่วงผมจึงส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร



เมื่อหายเหนื่อยแล้วผมก็สำรวจไปรอบข้าง ผลจากการฟัดกับกัปปะเมื่อกี้ทำให้เลือดสีแดงของผมกับเลือดสีน้ำเงินของกัปปะกระจายไปทั่วบริเวณ

แล้วผมก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้..อ่าใช่ ผมทำผิดพลาดครั้งใหญ่เลย!!



กลิ่นเลือดกับเสียงร้องของกัปปะนั่นดึงดูดความสนใจจากมอนสเตอร์ตัวอื่นได้อย่างดี !



ผมรีบจับมือเครมิสว่ายหนีออกจากบริเวณนั้นไป ใบหน้าของเครมิสแม้จะเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามแต่ก็ยอมว่ายไปด้วยกันกับผม

พวกเราว่ายหนีไปได้ไม่เท่าไหร่ก็มองเห็นฝูงปลาฝูงหนึ่ง….ไม่สิ มันไม่ใช่ปลา!

ไม่ทันแล้ว คราวนี้หนีไม่ทันแล้ว !


ฝูงนางเงือกจำนวนหนึ่งกำลังว่ายเข้ามาต้อนพวกเราเอาไว้เป็นวงกลมด้วยสีหน้ากระหายเลือดราวกับเห็นเหยื่อชั้นยอด……………………………


******************************************************************

[ Cloudia Sight ]


หลังจากที่พวกเราทิ้งโน้ตไว้กับเครมิสให้เขารอเรย์คุลงมานั้น ฉันกับหลงเฟยก็ว่ายน้ำไปสำรวจในทันที

ฉันแอบนึกขำ เรย์คุที่ไม่กลัวเซอร์เบอรัสสามหัวหน้าโหดแบบนั้นกลับกลัวแค่เชื้อโรคขนาดไม่ถึง1มิลลิเมตร



เมื่อพวกเราดำน้ำไปได้ลึกพอสมควร อยู่ดีๆหลงเฟยก็ยกมือมากั้นฉันเอาไว้แล้วชี้มือไปยังฝูงปลาฝูงหนึ่ง

ฉันมองตามมือของเขาแล้วพยายามสังเกตุดีๆ มันไม่ใช่ฝูงปลา แต่เป็นฝูงนางเงือก!


นางเงือกมีท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นปลา หุ่นเพรียวได้รูป ผมสยายไปตามสายน้ำ หน้าตาสะสวยเหมือนกับในนิทาน แต่ทว่า….

พวกเธอทั้งหมดมีหน้าตาดุร้าย ราวกับสัตว์ที่หิวโหยพร้อมจะกระชากเหยื่อที่เจอในทันที โดยเฉพาะเมื่ออยู่รวมกันเป็นฝูงแล้วชวนให้ขนลุกขนพองเป็นอย่างยิ่ง


หลงเฟยจับมือฉันว่ายน้ำไปหลบในดงสาหร่ายสีเขียวยักษ์แถวนั้น

ฉันหยิบสมุดโน้ตกันน้ำขึ้นมาและเขียนข้อความยื่นให้หลงเฟยอ่าน‘จะเอายังไงต่อ? เลี่ยงนางเงือกพวกนี้ไป หรือจะเสี่ยงเข้าไปหาแถวนี้?’

หลงเฟยขมวดคิ้วด้วยท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะเขียนโน้ตตอบกลับมา‘นางเงือกมีท่าทางหิวโหยแต่กลับไม่ออกไปล่าเหยื่อ

มีความเป็นไปได้ว่าพวกมันอาจจะเฝ้าอะไรอยู่ ต้องลองเสี่ยงไปค้นหาดู’


ฉันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย และเขียนโน้ตกลับไป’ก็จริงนะ แต่พวกเราจะเข้าไปหายังไง จะให้เข้าปะทะกับนางเงือกทั้งฝูงก็ไม่ไหวนะ

พวกเราใช้เวทย์ก็ไม่ได้ ฆ่าก็ไม่ได้’

หลงเฟยนิ่งคิดไปซักครู่ ดูท่าเขาจะคิดหนักเลย


ทันใดนั้น อยู่ดีๆนางเงือกทั้งฝูงก็เริ่มเคลื่อนไหว

ม..ไม่จริงน่า! พวกมันเห็นเราแล้วงั้นเหรอ


ฉันหน้าซีด กำอาวุธในมือแน่น หลงเฟยเองก็ไม่รอช้า หยิบเคียวน้ำแข็งของเขาขึ้นมาตั้งท่ารอ


แต่ทว่านางเงือกกลับไม่ได้สนใจพวกเรา พวกมันพร้อมใจกันว่ายออกห่างบริเวณนั้นไปราวกับเห็นอาหารชั้นเลิศ และแน่นอนว่าอาหารชั้นเลิศนั่นไม่ใช่พวกเรา

เมื่อฝูงนางเงือกพ้นสายตาไปแล้วฉันกับหลงเฟยก็ลดอาวุธในมือลง หัวใจเต้นโครมครามอย่างตื่นเต้น เมื่อกี้…เกือบไปแล้ว


หลงเฟยเขียนยุกยิกในสมุดโน้ตก่อนจะยื่นให้ฉันดู


‘แยกย้ายกันออกตามหา ระวังตัวไว้ด้วย อาจจะเหลือนางเงือกสองสามตัวคอยเฝ้าระวังที่นี่’

ฉันพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าเข้าใจแล้ว แล้วหลังเฟยกับฉันก็แยกกันออกตามหา

ฉันมองไปรอบบริเวณ มันมีแต่สาหร่าย สาหร่าย แล้วก็สาหร่าย! เหมาะสำหรับซ่อนของเอาไว้ในดงสาหร่ายซะจริงๆ


ฉันพยายามคุ้ยไปตามดงสาหร่ายแต่ก็ไม่พบอะไรเลย

เฮ้อ… บางทีคงไม่ซ่อนให้เห็นง่ายๆหรอกมั้ง อาจจะซ่อนในที่ๆไม่สะดุดตาก็ได้

ในขณะที่ค้นอยู่ มือฉันคือไปโดนก้อนหินลื่นๆก้อนนึงเข้า

เอ...แปลกจัง สัมผัสจากก้อนหินมันต้องขรุขระสิ ถึงจะลื่นเพราะตะไคร่น้ำแต่ก็ไม่น่าจะเรียบลื่นแบบนี้

ฉันสังเกตุก้อนหินก้อนนั้นดีๆ… ดูๆไปแล้ว นี่มัน ... หอยกาบนี่นา!

มันเป็นหอยมีฝาเปิดปิด ซึ่งตอนนี้มันปิดแน่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ60เซนติเมตร ใหญ่ไม่ใช่เล่น แถมดูเผินๆยังเหมือนกับก้อนหินอีกต่างหาก

เมื่อเห็นแล้วฉันก็อดรู้สึกอยากแงะหอยตัวนั้นขึ้นมาตะหงิดๆ บางทีข้างในมันอาจจะมีอะไรอยู่ข้างในก็ได้!

ฉันหยิบPurple moon หรือดาบยาวคู่ใจของฉันมาแงะฝาหอยและออกแรงพยายามแงะมันอยู่สักพัก ฝาหอยมันปิดแน่นมาก


แกร่ก!

ในที่สุดฝาหอยก็เปิดออก เผยให้เห็นวัตถุคล้ายแก้วสีทองที่ประดับลวดลายแกะสลักอย่างงดงามข้างใน
น..นี่มัน จอกศักดิ์สิทธิ์นี่นา!

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ฉันหยิบจอกศักดิ์ศิทธิ์และว่ายกลับไปหาหลงเฟย

ฉันว่ายไปสักพักก็พบกับเจ้าของเรือนผมสีฟ้าสดใสที่สยายไปทั่วบริเวณ


หลงเฟยกำลังพยายามดึงอะไรซักอย่างอยู่ เมื่อเขาสังเกตุเห็นฉันก็โบกมือเรียกให้ฉันไปช่วย

มันคือ วัตถุสีเขียวๆที่เกิดจากการพันด้วยสาหร่ายนานาชนิด ชั้นแล้วชั้นเล่า ตอนนี้สาหร่ายถูกแกะออกไปได้บางส่วน

เผยให้เห็นวัตถุสีทองส่องประกายด้านใน


ไม่ผิดแน่ ! มันคือจอกศักดิ์สิทธิ์ !


นับว่าหลงเฟยช่างสังเกตุมากทีเดียว ที่เห็นวัตถุสีเขียวๆนี่แล้วดูออกว่าเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ เพราะบริเวณนี้มีสาหร่ายบางชนิดที่มีตุ่มกลมๆบนใบอยู่ด้วย

ดูเผินๆแล้วเจ้าวัตถุสีเขียวนี่คล้ายกับตุ่มบนใบสาหร่ายมาก


ฉันช่วยเขาแกะสาหร่ายที่พันออก ฉันอยากจะเอาดาบฟันมันให้ขาด แต่ว่าเสี่ยงกับการที่จอกศักดิ์สิทธิ์จะเสียหาย

พวกเราจึงได้แต่ฟันปลายสาหร่ายที่ใช้พันและค่อยๆใช้มือแกะออกเหมือนแก้ปมเชือก


พวกเราช่วยกันแกะอยู่เกือบ5นาที ในที่สุดแก้พันสาหร่ายได้หมด

ฉันยิ้มอย่างดีใจ ขนาดหลงเฟยที่ทำหน้านิ่งมาตลอดก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

เท่านี้เราก็ได้จอกศักดิ์สิทธิ์มา2ใบแล้ว!


หลงเฟยหยิบโน้ตขึ้นมาเขียนข้อความและยื่นให้ฉันดู‘ไม่แน่ว่าอาจจะมีจอกอีกแถวนี้ ไปหากันอีกรอบเถอะ’


ฉันพยักหน้าเห็นด้วย แต่ทว่าอยู่ดีๆความคิดด้านลบก็แทรกขึ้นมากะทันหัน


น่าแปลก… นางเงือกผละออกจากสมบัติที่ตนเฝ้าไว้ถึง2ชิ้น และไม่แน่ว่าสมบัติที่เฝ้าไว้อาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้

ดูจากท่าทางหิวโหยของพวกมันแล้ว สิ่งที่ล่อพวกมันออกไปคงจะเป็น… อาหาร



หลงเฟยดูเหมือนจะสังเกตุเห็นท่าทางผิดปกติของฉัน แล้วเขาก็ชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นได้


ใช่แล้ว…อาหารที่ล่อพวกมันไป ในเมื่อไม่ใช่พวกเราก็ต้องเป็น…



เรย์คุกับเครมิส!!!!



ดูเหมือนหลงเฟยจะนึกออกแล้วเช่นกัน พวกเรารีบว่ายขึ้นไปด้านบนอย่างไม่ลังเล




ขอให้ทันทีเถอะ! สองคนนั้นสู้นางเงือกทั้งฝูงไหวได้ยังไง! ยิ่งสู้ใต้น้ำ แถมยังใช้เวทย์ไม่ได้อีก!!









--------To be Continue---------




แก้ไขล่าสุดโดย gizzza เมื่อ Wed May 02, 2012 7:09 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Zetsubou Semi
Zetsubou Semi

จำนวนข้อความ : 74
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Mon Apr 30, 2012 10:29 pm



ขนาดฟ้อนใช้ Ctrl+/- เอาแล้วกันนะคะ =w=

ตัวเอียงคือ คิดในใจ นะคะ

17,844 ตัวอักษร จบเสียที!! หากมีคำผิดต้องขอโทษด้วยจริงๆ หมดแรงจะอ่านทวนแล้ว T^T



-----------------------------------------------------------------------------




Turn 4




ปลา...อาหาร?


เจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงเอียงคอฉงนด้วยใบหน้ามึนๆ สอดส่ายตาไปรอบๆ เหมือนต้องการนับว่าที่เมนคอร์สของเขา ไม่แน่ว่าเครมิสอาจตรงเข้าไปจับเตรียมย่างกินแล้วเป็นแน่ถ้าไม่ใช่เพราะพวก ‘เธอ’ จ้องกลับด้วยใบหน้าดุร้าย


เรือนร่างทรวดทรงของหญิงสาวที่หากเป็นยามปกติอาจหลอกล่อชายหนุ่มมากมายให้ยอมมอบกายถวายชีวิต หางปลาเกล็ดมันวาวทำให้แม้ใครคิดจะหนีก็ยากเย็นแสนเข็ญเนื่องด้วยความเร็วในน้ำของพวกเธอไม่น้อยหน้านักกีฬาทีมชาติเลยทีเดียว


เสียก็แต่ว่า...อย่างเครมิสกับเรย์คุไม่สนอะไรแบบนี้หรอก!


ชายหนุ่มข้างๆ กระชับดาบในมือแน่นเตรียมป้องกันการโจมตีอย่างระแวดระวังตัวสุดกู่ แม้ว่าจะไม่หลงในรูปโฉมแต่ใช่ว่าจะสามารถต่อกรกับเจ้าถิ่นได้ง่ายๆ ด้วยจำนวนอันแตกต่างขนาดนี้


เงือกบ้าเงือกบออะไรฉันไม่สนหรอกนะ กับแค่สิ่งมีชีวิตมีกระดูกสันหลังคลาส Osteichthyes เอ...แต่ไม่มีแผ่นปิดเหงือกอาจเป็นคลาส Chondrichthyes ก็ได้แฮะ หน้าตาก็งั้นๆ ปล่อยผมสยายซะอย่างกับสาหร่ายใกล้ตาย ผสมชีสสัก 30% เอาไปทอดอีกหน่อยก็ได้สาหร่ายเถ้าแก่น้อยรสใหม่แล้ว


พอพวกเธอเห็นว่าทั้งสองคนไม่สนใจในเสน่ห์อันเย้ายวนเลยสักนิดก็ยิ่งทำให้โทสะก่อตัวขึ้นมากกว่าเดิม นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นตามลำดับจนเรย์คุแอบผงะไปชั่วครู่ ไม่ใช่เพราะหวาดกลัวแต่อย่างใดทว่า...


ตากลายเป็นสีแดงงั้นเหรอ ไม่เห็นสวยเลยสักนิด หัวของเจ้ามังกรบ้ายังสีสดธรรมชาติกว่าอีก ช่างเป็นสีที่ไม่บาลานซ์เอาเสียเลย แบบนั้นมันมะเขือเทศ 70% พริก 15% เห็ดมรณะสีแจ๊ดแจ๋ 10%


ส่วนอีก 5%...ช่างหัวมันโว้ย!



ไม่ทันให้ได้เตรียมตัวอะไรมากเงือกสองสามตนก็พุ่งเข้าใส่พร้อมกรงเล็บที่งอกยาวขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ พวกเธอทำอย่างกับว่ามีแค้นฝังลึกอย่างไรอย่างนั้น เครมิสเอี้ยวตัวหลบพลางยกดาบคู่ทั้งสองเล่มประสานกันเป็นรูปกากบาก เขาออกแรงดันเงือกตนหนึ่งที่โจมตีเพื่อเว้นระยะห่าง


ในเมื่อหนีไม่ได้ ถอยไม่ได้...ก็ผลักศัตรูให้ถอยเอง!


ทว่าแม้จะทำแบบนั้นก็ใช่ว่าเรื่องจะจบง่ายๆ เพราะพวกเธอก็ยังคงพุ่งเข้ามาเหมือนจองล้างจองผลาญมาแต่ชาติปางก่อน เรย์คุเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามป้องกันแล้วหาจุดอ่อนเสียมากกว่า พวกเขาเล่นโดนล้อมหน้าล้อมหลังแบบนี้ การจะหนีนี่ไม่ต้องให้พูดเลย


เพราะมันแทบเป็นไปไม่ได้!


ชิ...เวลาแบบนี้ไอ้สองคนนั้นมันหายไปไหนฟระ!


เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินพยายามกวัดแกว่งดาบด้วยความเร็วเท่าที่ทำได้เพื่อให้เหล่าเงือกตกใจถอยห่าง แต่พวกเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่รอบๆ ไม่หายไปไหนคล้ายรอเวลาบางอย่าง...


นี่มัน...มืดลงหรือเปล่า


เรย์คุสะบัดหน้าไปมาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ แต่ไม่ว่าจะลองตบหน้าตัวเองเสียอีกหลายฉาดภาพรอบด้านก็ยังคงค่อยๆ มืดครึ้มขึ้นอยู่ดี จากตอนแรกที่สามารถมองเห็นในน้ำได้ชัดเจนก็เริ่มพร่ามัวตามลำดับ จะหวังพึ่งแสงสว่างจากโลกเบื้องบนแทบเป็นไปไม่ได้เพราะทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อว่า ‘มรณะ’ เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจหากมันจะดำสนิทเหมือนสีแห่ง ‘ความตาย’ สมชื่อ


เมื่อชายหนุ่มหันไปมองเพื่อนร่วมทีมอีกคน ฝ่ายนั้นก็หันซ้ายหันขวาอยู่ไม่สุขคล้ายรับรู้ข่าวร้ายนี้เหมือนกัน ในเมื่อไม่ใช่เขาคนเดียวที่รู้สึกแปลกๆ...


แปลว่าพืชสารพัดประโยชน์เริ่มหมดฤทธิ์แล้ว!


บัดซบที่สุด มันมืดขนาดนี้เลยเหรอวะ!


เรย์คุกับเครมิสถอยมาหันหลังชนกันเพราะรัศมีการมองเห็นเริ่มแคบเข้าไปทุกที เกิดฟันโดนพวกตัวเองคงยิ่งตัดทอนกำลังจนต้องพากันตายจมลงสู่ก้นทะเลสาบเป็นแน่


อ่า...แต่ไม่แน่อาจโดนกินจนไม่เหลือซากให้จมก็ได้ถ้ายังไม่รีบพยายามสู้กับเงือกเหล่านี้


เหล่าเงือกไม่โจมตีพวกเขามาสักพักแล้วแต่กลับเลือกที่จะแฝงกายไปกับความมืด พวกมันคงสัมผัสได้ถึงไอพลังของพืชวิเศษที่อ่อนลงเต็มที เสียงของสายน้ำแม้ดังไม่มากทว่าเครมิสก็รับรู้ได้ถึงปริมาณเงือกที่เพิ่มขึ้น


เง้อ แบบนี้ไม่ดีแฮะ...


เครมิสเกิดอาการเครียดแปลกๆ อย่างที่ไม่ค่อยจะเป็น หากอยู่บนบกเขาคงต่อสู้ได้ง่ายกว่านี้มาก ด้วยความเร็วและพละกำลังแค่นั้นก็เพียงพอสำหรับการเอาชนะสาวๆ เหล่านี้ การถูกจำกัดความสามารถในหลายๆ ด้านทั้งเวทมนตร์แล้วยังการเคลื่อนไหวในน้ำอีก


แม้แต่มังกรบ้าไร้สาระไปวันๆ...ก็เครียดเป็น!


ทั้งสองคนจับอาวุธของตัวเองแน่นพร้อมรับการโจมตีอยู่ตลอดเวลา แม้ทัศนียภาพจะมืดครึ้มลงเรื่อยๆ แต่ถึงคราวจำเป็นก็คงต้องใช้แผนสุดท้าย...


แผนฟันแหลก!


ทั้งเรย์คุและเครมิสต่างเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ดีว่าคงไม่พ้นที่จะต้องต่อสู้เหมือนหมาจนตรอกชนิดอาจารย์สำนักดาบที่ไหนมาเห็นต้องกุมขมับแล้วเป็นลมกับความไร้ระเบียบแบบแผน


แต่ใครบ้านไหนจะใจเย็นได้เวลามีคนจ้องจะเขมือบล่ะ!


ความเย็นของทะเลสาบเริ่มแล่นเข้าจับทุกส่วนของร่างกายเนื่องจากฤทธิ์พืชนั้นเริ่มลดลงเรื่อยๆ เครมิสยังพอทนได้ไม่ยากเย็นอะไรนักเนื่องจากร่างกายเขาเหมือนมีเตาผิงจุดอยู่ภายในตลอดเวลา แต่ทางด้านของเรย์คุ...


สีหน้าซีดเซียวจนมังกรหนุ่มที่แอบหันมามองอดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ เขาไม่อยากเห็นใครตายไปต่อหน้าต่อตาอีก ดังนั้นเวลาเห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานเพราะพิษไข้หรือบาดแผลจะมีผลต่อจิตใจเครมิสสุดๆ


จะเป็นอะไรไหมนะ...


เครมิสพยายามจะฝืนใช้เวทมนตร์เผื่อจะได้ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังได้ แต่ก่อนจะได้ลองทำอะไรเรย์คุก็กำหมัดแน่นก่อนจะพูดอะไรออกมายาวเหยียดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว


“ฉันขอสาบานเลยว่าจะสาปแช่งไอ้พวกที่มันชอบต่อว่าคนตะคริวกินว่าเป็นคนอ่อนแอ ไม่ยอมอบอุ่นร่างกายก่อนว่ายน้ำ พวกแกไม่รู้หรือไงว่าตะคริวมาจากการที่ร่างกายไม่ค่อยได้รับออกซิเจนทำให้ใช้การหายใจระดับเซลส์แบบอิงออกซิเจนไม่ได้ พอใช้ไม่ได้ก็ทำให้เกิดกรดแลคติคจนเกร็งแล้วหนักจนเป็นตะคริว!”


ถ้าแกบอกว่าในน้ำมีออกซิเจนเยอะก็ไปเกิดเป็นปลาเหอะไอ้พวกบ้า!


เขาทำท่าฟันออกไปตามอารมณ์อันครุกกรุ่นหวังให้ร่างกายของตนอบอุ่นขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย การขยับตัวบ้างเป็นพักๆ ช่วยให้ขาไม่แข็งค้างไปเสียก่อน เมื่อเครมิสเห็นคู่หูจำเป็นยังมีแรงบ่นทะเลาะกับตัวเองได้แม้จะฟังไม่รู้เรื่องเพราะใส่ที่อุดหูอยู่แต่ก็แอบหัวเราะอย่างโล่งอก


ท่าทางแบบนี้คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เรย์คุนาริเอวาโร่จังเองก็ธาตุน้ำนี่นา


ช่วงเวลาอันสงบสุขมีให้เพียงไม่นานนักจู่ๆ สายน้ำก็เคลื่อนตัวเล็กๆ แต่ไม่อาจรอดพ้นหูที่ไวต่อเสียงของเครมิสได้ เขาสะกิดคนข้างๆ เหมือนต้องการเตือนให้ระวัง ชี้มาทำนองว่าเหล่าเงือกกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมโจมตี


เรย์คุฉีกยิ้มกว้างหรือให้ถูกควรเรียกว่า ‘แสยะยิ้ม’ เสียมากกว่า เขายกดาบขึ้นตั้งท่ารับอย่างมั่นคง สายตานิ่งเรียบอัดแน่นด้วยสมาธิอันเต็มเปี่ยม “ถ้าจัดการพวกแกเสร็จจะได้กลับไปอาบน้ำยาฆ่าเชื้อเสียที!”


ในไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาพร้อมกรงเล็บคมเตรียมกระชากเนื้อสดๆ ของพวกเขา เครมิสเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วรีบยกดาบคู่ขึ้นป้องกันอีกครั้ง ทว่าเงือกตนนั้นผละออกอย่างเร็วคล้ายรับรู้ถึงจิตอาฆาตของมังกรหนุ่ม


ครั้งนี้คงไม่ทำแค่ผลักออกเฉยๆ แน่!


แม้เงือกตนนั้นจะเว้นระยะห่างหลบคมดาบที่พุ่งผ่านลำคอได้อย่างหวุดหวิดแต่เธอก็ไม่ได้มีสีหน้าตื่นกลัวเลยสักเล็กน้อย นัยน์ตาสีแดงเลือดจ้องกินเลือดกินเนื้ออีกหลายคู่จับจ้องการเคลื่อนไหวของเครมิสและเรย์คุคล้ายพยายามใช้มนต์สะกด


คิ้วเรียวขมวดเป็นปมเล็กๆ เหมือนเกิดอาการปวดหัวตุ้บๆ แปลกๆ เป็นจังหวะให้เงือกสาวตนหนึ่งหมุนตัวเหวี่ยงหางฟาดหน้าเต็มๆ เครมิสซึ่งไม่ทันตั้งตัวกระเด็นห่างจนพ้นรัศมีการมองเห็นของเรย์คุทำให้ทั้งสองโดนแยกกันอย่างสมบูรณ์


ต่างฝ่ายต่างต้องสู้เพียงลำพังท่ามกลางความมืดโดยไม่รู้ว่ามีศัตรูล้อมอยู่มากน้อยเพียงใด ยิ่งไม่มีใครคอยช่วยระวังหลังทำให้เหล่าเงือกได้ใจเข้าโจมตีไม่เว้นจังหวะให้หายใจสักนิด


เรย์คุเผยสีหน้าเจ็บปวดขึ้นมาหลายครั้งเนื่องจากแผลเก่าคล้ายจะฉีกตัวกว้างขึ้น เลือดสีแดงสดยิ่งเย้ายวนให้เหล่าเงือกส่งสายตาพราวน้ำลายสอไปตามๆ กัน


อี๋ ทำหน้าแบบนั้นน่าขยะแขยงที่สุด รับไม่ด้ายยย!


ชายหนุ่มทำท่าอยากจะอาเจียนออกมาเดี๋ยวนั้น แต่ถ้าทำจริงๆ ขึ้นมาคงต้องรีบว่ายน้ำหนีเพราะโรคอนามัยจัดคงกำเริบอย่างช่วยไม่ได้...


เขาแทงดาบเข้าใส่เงือกหลายตนอย่างไม่สนใจอะไรอีกต่อไป พยายามเลือกจุดที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแต่หลายครั้งที่สาวๆ พลิกตัวหลบได้อย่างง่ายดาย ภายใต้ผืนน้ำแห่งนี้แถมฤทธิ์พืชสารพัดนึกที่ลดลงเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ความเร็วของพวกเขาแตกต่างกับเจ้าบ้านลิบลับ


ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป...ได้สู้กันไม่จบไม่สิ้นแน่!


ทางด้านเครมิสเองก็ใช่ว่าจะได้เปรียบกว่าแต่อย่างใด ถึงเขาจะมีดาบสองเล่มทำให้ป้องกันได้หลากหลายกว่าและเหมาะสำหรับตั้งรับศัตรูจำนวนมาก แต่แรงดันน้ำซึ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อครู่ทำให้มังกรหนุ่มเริ่มพลาดมากขึ้น


“โอ๊ย!” ร่างสูงกัดฟันแน่นอย่างเจ็บแค้นหลังจากถูกข่วนเข้าให้เต็มๆ หลัง เขาหันไปจ้องคนลอบกัดอย่างเคียดแค้น “มันเจ็บนะ!”


“ฮิๆๆ” เงือกตนนั้นหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะเอี้ยวตัวหลบดาบไปทางด้านซ้ายแล้วอาศัยจังหวะที่เครมิสออกตัวฟันดาบในการชกเข้าให้เต็มๆ สีข้าง มังกรหนุ่มแม้จะมีสายตาเฉียบคมแต่ในน้ำแบบนี้การจะชักอาวุธกลับเป็นไปได้ช้ามากนักจึงไม่อาจป้องกันการโจมตีได้


นัยน์ตาสีทองส่องประกายกร้าวขึ้นมาก่อนจะเป็นฝ่ายบุกกลับอย่างรวดเร็วเท่าที่ทำได้ ดาบทั้งสองฟาดฟันในจังหวะที่ไม่เท่ากันเพื่อความต่อเนื่องจนเงือกตนเดิมหลบไม่ทัน เธอโดนแทงเข้าที่แขนและหาง บาดแผลไม่หนักหนามากนักหากแต่ปล่อยไว้ก็ใช่ว่าจะดี สุดท้ายก็จำใจถอยหนีโดยปล่อยให้เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ตนอื่นมาสู้ต่อแทน


คราวนี้มังกรหนุ่มพยายามเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่องเพื่อลดข้อด้อยด้านการถอยกลับมาตั้งรับ โชคดีที่เขายอมใช้ดาบคู่ตามคำสั่ง เมื่อก่อนขอเพียงมีกรงเล็บอันแข็งแกร่งก็จับสัตว์หากินได้ไม่ยาก แต่ถ้าไม่ใช่เพราะท่านแม่ที่เคารพบ่นจนหูชา เขาก็อาจตายไปนานแล้วก็ได้


เหล่าเงือกต่างตกใจกับความเปลี่ยนแปลงจนเริ่มไม่กล้าบุกเข้าโจมตีเดี่ยวๆ พวกเธอส่งสัญญาณคล้ายให้ไปตามพรรคพวกมาเพิ่มแต่ไม่ทันที่จะได้หนีไปขอกำลังเสริมก็มีดาบอีกเล่มปักเข้าที่หางจนเลือดนอง


เมื่อเห็นผู้มาใหม่ก็ทำให้เครมิสยิ้มแก้มปริ


เรย์คินาซิเย่ หลงเฟรินาอู้ กับคลาวเดนิซาเคมี่ มากันครบเลย!


เรย์คุชักดาบที่แทงเงือกเมื่อครู่กลับมาพร้อมยิ้มหวานหยดชวนสะพรึงใส่ศัตรูที่เหลือ อารมณ์ของเขาค่อนข้างลดต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องจากกลิ่นน้ำพิษเริ่มโชยแตะจมูก


ฉันจะกลับไปแช่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในห้องแสนสุขโว้ย พวกแกอย่ามาขวางซะให้ยาก!


หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มอย่างคลาวเดียถึงกับเหงื่อตกที่เห็นสีหน้ายิ้มสยองของคนตรงหน้า แม้จะพอเดาถึงสาเหตุได้ก็ตามแต่ไม่นึกว่าคนๆ นี้จะทั้งเกลียดและกลัวเชื้อโรคตัวกระจิ๊ดเอามากๆ


ทว่าจู่ๆ เธอก็ฉีกยิ้มหวานขึ้นบ้างเหมือนเพิ่งนึกได้ กระชับดาบคู่ใจสีม่วงสวยในมือแล้วพยายามไล่ต้อนเงือกตนอื่นๆ


เกือบลืมไปเลย ถ้าจัดการพวกนี้เสร็จจะได้กลับไปกินเค้กสงบๆ เสียที!


หลงเฟยแอบส่ายหน้ากับสองคนที่สติหลุดไปเรียบร้อยไม่ได้ อาจเพราะต้องทนอยู่ในที่มืดๆ นานๆ แถมแรงดันน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลต่อจิตใจไม่มากก็น้อย ขนาดเขาเองยังมีความคิดอยากหนีไปให้ไกลๆ จากที่นี่เลยถ้าไม่ติดว่าภารกิจค้ำคอ


‘แผลนั่นเป็นอะไรมากไหม?’ ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหวานจนควรเรียกว่า ‘สาว’ เขียนข้อความลงบนกระดาษกันน้ำแล้วชูขึ้นให้เครมิสดู


พอถูกทักก็รีบถือดาบไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วใช้มือที่ว่างสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างถี่ถ้วน เครมิสแอบแปลกใจเล็กๆ ที่ตัวเองมีเลือดออกหลายจุด บางส่วนช้ำจนแตะๆ หน่อยก็รู้สึกเจ็บจี๊ดถึงใจ แม้ปกติเขาจะถึกทนทานตายยาก แต่เมื่ออยู่ในทะเลสาบนี้ทำให้การฟื้นตัวช้าแปลกๆ


เขายิ้มแห้งๆ อย่างไม่สมกับความบ้าปกติเท่าไหร่


กลับไปได้โดนไฟราวิเนลู่สวดยับแหงเลย...


หลงเฟยก้มลงเขียนอะไรอีกเล็กน้อยก่อนจะชูขึ้นให้อ่านอีกรอบ ‘ไปตามหาจอกซะ เอาเจ้าหัวน้ำเงินไปด้วย ทางนี้ปล่อยพวกข้าจัดการเอง’


เครมิสพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะรีบว่ายตรงเข้าไปหาเรย์คุ เงือกหลายตนเห็นดังนั้นก็ทำท่าจะตามไปขัดขวางถ้าไม่ใช่เพราะเคียวสีฟ้าใสบริสุทธิ์เข้าขวางค้ำคออยู่ชนิดที่ขยับเพียงเล็กน้อยหัวได้หลุดจากบ่าเป็นแน่


หลงเฟยยังคงตีสีหน้าเรียบเฉยติดไปทางเย็นชาจ้องมองเหล่าเงือกที่แอบเผยสีหน้าหวาดผวาอย่างเก็บไม่อยู่ “หึ...ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าไปหรอก”


เงือกที่อ้อมหลบได้ทันเตรียมจะโจมตีเครมิสจากด้านหลังก็ถูกดาบสีม่วงอเมทิสต์ขวางเข้าให้ ผู้เป็นเจ้าของฉีกยิ้มอย่างท้าทายคล้ายสนุกกับการต่อสู้ตรงหน้า “ฉันคงปล่อยให้พวกเธอไปขัดขวางไม่ได้หรอก”


เครมิสหันกลับมามองด้านหลังเพียงเล็กน้อยและเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนโบกมือเป็นเชิงไล่ก็รีบคว้าแขนเรย์คุแล้วว่ายลงลึกสู่ก้นทะเลสาบ เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะเผยสีหน้าหงุดหงิดเล็กๆ คล้ายอยากสู้ต่อไปมากกว่า


มังกรหนุ่มค่อนข้างมั่นใจในกำลังของขาตัวเองซึ่งช่วยได้มากในเวลาแบบนี้ เขาถีบขาระรัวจนร่างทั้งสองเคลื่อนที่ฝ่าวงล้อมเงือกได้ไม่ยากเย็นนัก ซึ่งต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมอีกสองท่านที่ยอมเป็นเป้าล่อเบนความสนใจแทน


แค่เป็นเป้าล่อ...ที่โจมตีกลับด้วยก็แค่นั้น!


**********


เจ้าพวกนั้นไปแล้วสินะ


หลงเฟยมองทั้งสองคนจนหายลับไป เมื่อแน่ใจว่าพวกเขาหลุดพ้นจากวงล้อมเหล่าเงือกได้แล้วก็หันกลับมาจ้องศัตรูตรงหน้าแทน นัยน์ตาสีม่วงสดแฝงความเย็นชาหนาวจับใจคล้ายไม่เห็นสิ่งมีชีวิตตรงหน้าอยู่ในสายตา


อยู่ในน้ำก็ดีอย่าง...ไม่มีเสียงน่ารำคาญ


เขาพุ่งเข้าใส่เงือกที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก่อนจะใช้เท้าถีบเข้าให้เต็มๆ เพื่อส่งแรงหมุนตัวตีลังกาไปฟันเงือกอีกตนซึ่งลอบโจมตีด้านหลัง เคียวคู่ใจเหวี่ยงเป็นวงกลมตามแรง เฉือนเนื้อสดๆ จากรอบทิศจนพวกเธอกรีดร้องไปตามๆ กัน


“กรี้ดดดดดดดดดดดดดด”


หลงเฟยผงะไปเล็กน้อยกับภาพตรงหน้า ดีแค่ไหนที่ทุกคนต่างใส่ที่อุดหูเอาไว้อย่างแน่นหนา


ไม่อยากคิดเลย...ว่าเสียงนี่จะดังแค่ไหน


ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีฟ้าสดใสอาศัยจังหวะที่เหล่าเงือกทั้งหลายกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพุ่งตัวอ้อมไปด้านหลัง หมุนตัวเพื่อเพิ่มความเร็วก่อนจะฟาดด้ามเคียวไปที่ท้ายทอยเพื่อทำให้พวกเธอหมดสติ คลาวเดียซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็เข้าร่วมสมทบอย่างดี


คลาวเดียก้มหลบกรงเล็บของเงือกตนหนึ่งก่อนจะแทงดาบออกไปโดยมีเป้าอยู่ที่หางซึ่งหุ้มไปด้วยเกล็ดมันวาว อีกฝ่ายถอยหลบได้อย่างหวุดหวิดโดยไม่ทันนึกเลยว่า...


มันคือกับดัก!


หลงเฟยที่รอจังหวะอยู่ก่อนแล้วด้านหลังก็ฟาดเคียวใส่อย่างจังจนร่างนั้นกระเด็นไปไกล ไม่ถึงตายแต่ก็คงไม่รนหาที่ขนาดจะกลับมาต่อกรด้วยอีก


ทั้งสองประสานงานกันได้อย่างเข้าขากว่าคู่ของเครมิสและเรย์คุนัก คนหนึ่งล่อและสร้างบาดแผลนิดๆ หน่อยๆ พองาม อีกคนอ้อมไปด้านหลังเพื่อเผด็จศึกให้สาวๆ หมดสติชนิดซ่าไม่ได้อีกสักพัก


ทั้งสองคนหันไปหาเงือกอีกสี่ห้าตนที่เหลืออยู่ด้วยใบหน้าเย็นชาสื่อความประมาณว่า ‘อยากตายก็เข้ามา’


สีหน้าของพวกเธอขาวซีดลงจากเดิมเยอะจนไม่กล้าขยับไปไหน หน้าที่ปกป้องสมบัติยังค้ำคอแต่ก็ไม่อยากมีสภาพปางตาย


ใครจะรู้ว่าสองคนนี้จะพลั้งเผลอลงไม้ลงมือหนักไปหน่อยหรือเปล่า!


ไม่นานนักเงือกที่เหลือก็ลี้ภัยหนีหายกลับไป ทิ้งหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวไว้ท่ามกลางความมืดมิดและไอพิษซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ


หลงเฟยหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนแล้วยื่นให้คลาวเดีย ‘ขึ้นไปข้างบนก่อน’


หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วพากันว่ายกลับขึ้นไป ในเมื่อฤทธิ์ของพืชนั้นใกล้หมดเต็มที เกิดหายใจไม่ออกขึ้นมาจะแย่เอาได้ ไม่ต้องพูดถึงปริมาณพิษร้ายที่จะเข้าโจมตีจากรอบด้าน


หวังว่าสองคนนั้นจะไม่เป็นอะไรนะ


คลาวเดียหันกลับไปมองเบื้องล่างที่มีแต่ความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด เธอชะงักอยู่นานจนหลงเฟยต้องสะกิดแล้วยื่นกระดาษอีกแผ่นให้อ่าน


‘รีบขึ้นไปจะได้เอาพืชรูปหัวใจนั่นมาฝากสองคนนั้น’


เมื่อเห็นดังนั้นก็ทำให้ร่างบางแอบยิ้มด้วยความยินดี เธอไม่อยากทิ้งพวกพ้องเอาไว้แล้วตัวเองขึ้นไปพักสบายใจ แม้ว่าวันหนึ่งพวกเธอจะต้องต่อสู้กัน แต่ตอนนี้พวกเขาเหล่านั้นเป็น ‘เพื่อน’ ไม่ใช่ ‘คู่แข่ง’


**********


ไอ้จอกงี่เง่านั่นอยู่ไหนวะ!


เรย์คุแทบอยากจะเอาดาบฟันสาหร่ายขยุกขยุยรอบกายให้หมดๆ ไปเผื่อจะหาจอกเจ้าปัญหาชิ้นสุดท้ายเจอให้มันจบๆ ตอนนี้พวกเขามีจอกกันคนละหนึ่งแล้ว ขาดก็แต่เครมิสซึ่งยังไม่มีไว้ในครอบครอง


หลงเฟยอธิบายมาในกระดาษว่า ‘ถือจอกได้คนละหนึ่ง เกินไม่ได้’


ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจความหมายเท่าไหร่ แต่พอลองขอยืมคลาวเดียมาถือก็ทำไม่ได้ เกิดประกายสีทองขึ้นวูบหนึ่งพร้อมความเจ็บแปล้บที่ปลายนิ้ว


เดี๋ยวนะ...ความเจ็บงั้นเหรอ!


เขารีบคว้าคอเสื้อมังกรหนุ่มซึ่งอยู่ด้านหน้าก่อนจะเขียนข้อความลงในกระดาษ ‘ฉันมีวิธีหาจอกแล้ว นายไปหาอีกทางไปด้วยแล้วกัน’


เครมิสกระพริบตาปริบๆ แล้วพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ เขาแยกตัวไปหาเท่าที่ทำได้เพราะแม้ว่าจะใช้วิธีการจับสัมผัสแบบเรย์คุไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ควรลองเดาสุ่มต่อไป


เรย์คุคอยคลำไปตามพื้นเพื่อหาจอกเป้าหมายสุดท้ายให้เจอ อย่างน้อยตอนนี้ตัวเขาก็เหมือนเป็นเรดาร์หาของไปโดยปริยาย หากมีความรู้สึกเจ็บแสบก็หมายความว่าเจอของที่ต้องการแล้ว


“โอ๊ย!” เขาชักมือกลับขึ้นมาก็พบสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดกัดนิ้วเข้าให้เต็มๆ “แกมันก็แค่สิ่งมีชีวิตสีม่วงคล้ำเหมือนเอาอัญชัญมาขยี้ให้ช้ำ เติมน้ำเชื่อมสักช้อน พริกไทยอีกหน่อย แล้วขว้างใส่หน้าคู่อริคงขำไม่ใช่น้อย”


แล้วฉันมาบ่นบ้าอะไรอีกแล้วฟระ!


เขาสะบัดหัวแรงๆ อีกหลายทีก่อนจะขว้างสิ่งมีชีวิตไม่ทราบสายพันธุ์ สัญชาติ หมู่เลือด และบลาๆๆ ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ร่างสูงควานหาไปทั่วพื้น โดนเศษซากหลายอย่างบาดจนเลือดซิบ สีหน้าของเรย์คุตอนนี้เหมือนบ่งบอกชัดเจนว่าอยากฆ่าคน


ไม่สิ...ต้องเรียกว่า ‘ฆ่าเชื้อโรค’ ต่างหาก


ทำไมมันถึงได้โสโครกโสมมไร้ความสะอาดแบบนี้ สิ่งมีชีวิตที่อาศัยที่นี่เป็นพวกชอบคลุกโคลนคลุกขี้หรือไง น้ำก็เน่า ขยะก็เยอะ ฉันอยากจะบ้าตายโว้ยยย!


ในจังหวะที่เขากำลังหงุดหงิดก็หยิบข้าวของบนพื้นมาเขวี้ยงปาจนจู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงอะไรแปลกๆ


ไอ้ความรู้สึกเจ็บๆ คันๆ เมื่อกี้...เฮ้ย!


และแล้วเรย์คุก็เพิ่งจะรับรู้ได้ถึงความจริงที่ว่า...เขาเพิ่งจะขว้างจอกทิ้งไปเมื่อกี้!


ทำไมถึงดวงซวยอย่างนี้วะ!


**********


ทางด้านเจ้าของเรือนผมสีแดงเพลิงแหวกว่ายไปเรื่อยๆ ตามกอสาหร่ายที่พันกันยุ่งยากจะคลาย ไอเย็นเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณแถมด้วยพิษร้ายที่วิ่งเข้าตามบาดแผลจนเครมิสกัดฟันด้วยความเจ็บปวด


แสบ...


รอบด้านเต็มไปด้วยความมืดมิดจนรัศมีการมองแคบลงเรื่อยๆ ความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายแล่นเข้าจับใจจนนัยน์ตาสีทองปรือลงอย่างเหนื่อยอ่อน สาหร่ายจำนวนมากพันขาของเขาจนก้าวไม่ออก


อย่างนอนลงไปทั้งๆ แบบนี้จังเลย...


มังกรหนุ่มเหม่อลอยออกไปไกลโพ้นก่อนจะเห็นแสงประกายวิบวับเหมือนเป็นดวงดาวที่นำทางอยู่ในท้องฟ้าอันมืดมิด เขาพยายามฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบากก่อนจะเห็นใบหน้าของคนคุ้นเคยเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ


เรย์คุนาโร่?


“เจ้าบ้าเอ๊ย มานอนไปทั้งๆ แบบนี้ได้ยังไง!” เรย์คุตวาดลั่นแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ยินก็ตามที เขาเอื้อมมือมาหยิกแก้มเครมิสเหมือนพยายามปลุกให้ตื่น


มังกรหนุ่มกระพริบตาปริบๆ เหมือนปรับอารมณ์ไม่ถูก ความมืดในใจถูกแทนที่ด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวของคนตรงหน้าจนนึกขำเล็กๆ


ฮ่าๆๆ ทำหน้าเหมือนไฟรราริโย่เลย


เมื่อเห็นมังกรหนุ่มแอบหัวเราะก็ทำให้เรย์คุพาลหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม เขาชูจอกชิ้นสุดท้ายในมือซึ่งส่องประกายวูบวาบชอตมือจนเจ็บปวดแสบปวดร้อนอยู่ตลอด


พอหาเจอไอ้บ้าอย่างแกก็หายหัวไปไหนไม่รู้ตั้งไกล รู้ไหมการเสีย ATP ไปมากๆ ทำให้ยิ่งหนาว แล้วพอหนาวความสามารถในการคิดคำนวณก็ลดต่ำลงฮวบ ยิ่งคิดอะไรไม่ออกก็ยิ่งปวดหัวอย่างผ่ามันออกมาสับๆๆๆ ความผิดเอ็งคนเดียว!


เครมิสรับจอกมาถือไว้แต่ก่อนที่จะช่วยกันแก้สาหร่ายจอมป่วนออกทั้งสองก็รับรู้ได้ถึงลางหายนะที่เรียกว่า...


งานเข้าอย่างแรง!


ทั้งเรย์คุและเครมิสรีบยกมือขึ้นปิดปากอย่างเร็วตามสัญชาตญาณเพราะสิ่งที่พวกเขากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว ฤทธิ์ของพืชแสนวิเศษลดลงจนใกล้จะเป็นศูนย์ การหายใจติดขัดจนทั้งสองจำต้องรีบว่ายขึ้นสู่เบื้องบนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้


แต่มันจะทันหรือไม่?


สีหน้าของทั้งคู่ซีดเผือกลงเรื่อยๆ จากปริมาณอากาศในปอดซึ่งน้อยลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเรย์คุก็หมดสติไป เครมิสรีบคว้าข้อมือของเพื่อนร่วมภารกิจก่อนที่ร่างนั้นจะจมลงสู่ความมืดมิด เขาเป็นมังกรเพราะอย่างนั้นร่างจริงจึงค่อนข้างใหญ่


ขนาดของปอด...แน่นอนว่าต้องมากพอกลั้นหายใจได้อีกสักพัก


หากเป็นยามปกติก็คงไม่มีปัญหาอะไรแต่ด้วยฤทธิ์ของพิษร้ายซึ่งกัดกินบาดแผลจนเหวอะ เลือดไหลออกจากกายอย่างรวดเร็วเพราะอยู่ในน้ำ หากไม่รีบออกจากสถานที่นี้ให้เร็วที่สุดเกรงว่าขนาดมังกรถึกทนทานตายยากก็คงไม่รอด


เปลือกตาเลื่อนลงจนเกือบจะปิดสนิท ขาที่เคยรัวถี่ยิบลดจังหวะช้าลงจนไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว


นี่เราจะตายอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ ทั้งๆ ที่อีกนิดเดียวก็จะถึงอยู่แล้วแท้ๆ เลย...


แสงสว่างจากเบื้องบนเพียงเล็กน้อยเหมือนทางออกเพียงแต่เขาไม่มีแรงจะขยับร่างกายอะไรอีกแล้ว ร่างทั้งสองจมกลับไปสู่ความมืดเหมือนถูกกลืนกิน กลิ่นอายแห่งความตายวิ่งวนรอบเหมือนเชื้อเชิญดวงวิญญาณของพวกเขา


แต่...ดูเหมือนจะมีคนไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น!


เคียวเล่มงามตวัดไล่ไอความมนต์ดำออกไปก่อนผู้เป็นเจ้าของจะยัดอะไรบางอย่างเข้าปากคนป่วยใกล้บางคน เรย์คุฟื้นขึ้นมาพร้อมใบหน้าเหยเกจากรสชาติอันน่าขยะแขยงชนิดไม่มีวันลืม เขาหันซ้ายหันขวาก็พบคลาวเดียทำสิ่งที่ไม่ต่างกันกับเครมิส


พวกเขาพากันว่ายกลับเข้าสู่แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว เมื่อหัวพ้นน้ำแล้วสิ่งที่ทำเหมือนกันคือหายใจให้มากที่สุดทดแทนช่วงเวลาอันยาวนานภายใต้ผืนน้ำ นัยน์ตาสี่คู่หันมามองกันก่อนจะแอบขำเบาๆ คล้ายสบายใจจากการฝ่าวิกฤตทั้งหลายแหล่มาจนได้


เป็นรอยยิ้ม...ที่พวกเขาคงจดจำไปอีกนาน


**********


ทั้งสี่คนช่วยกันลากสังขารกลับโรงแรมอย่างเหนื่อยอ่อน พอพ้นรัศมีเขตรอบนอกทะเลสาบแล้วเครมิสก็อาสาใช้เวทไฟทำให้เสื้อผ้าแห้ง คงไม่ดีแน่หากจะป่วยนอนซมจนไม่มีแรงไปทำอะไรต่อ เมื่อถึงที่พักเรย์คุก็ขอตัวกลับห้องอย่างด่วนคล้ายทนเชื้อโรคบนตัวไม่ได้อีกต่อไป


ความจริงถึงไม่ใช่คนอนามัยจัดแบบเรย์คุก็อยากอาบน้ำอยู่ดี บาดแผลเต็มตัวแถมติดเชื้อ กลิ่นเหม็นเน่า เศษดินคราบโคลน...สภาพตอนนี้ดูได้ที่ไหนล่ะ!


ต่างคนต่างขอตัวกลับห้องก่อนที่จะทรุดหมดสติกลางห้องนั่งเล่น ไม่มีใครอยากแสดงด้านที่อ่อนแอของตนให้คนอื่นเห็นหรอก แม้บาดแผลหลายจุดบวกกับการเสียเลือดจำนวนมากแต่พวกเขาก็เลือกที่จะกลับไปจัดการกับตัวเองในห้องพักมากกว่า


“เป็นคนเข้มแข็งกันจริงๆ” ซีโร่ที่ยืนดูอยู่นานแอบยิ้มออกมาแล้วพึมพำกับตัวเอง


แต่ก็ใกล้ถึงเวลา...ที่พวกเขาต้องต่อสู้กันแล้วสินะ



END



แก้ไขล่าสุดโดย DarkPhoenix เมื่อ Sun May 06, 2012 11:01 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Tue May 01, 2012 12:19 pm

เทิร์นที่หนึ่ง...เสร็จสิ้น!
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  Zetsubou Semi Tue May 01, 2012 1:21 pm

วิจารณ์ของอายจัง
เนื้อเรื่องลื่นไหลคำผิดไม่เยอะ จัดหน้าอ่านง่ายสื่อคาแรกเตอร์แตาละคนออกมาชัดดีค่ะ'w'b

เอ่อ...แล้ววิจารณ์อะไรต่อดีหว่า/โดนตรบ
Zetsubou Semi
Zetsubou Semi

จำนวนข้อความ : 74
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Tue May 01, 2012 1:38 pm

ยังมีคำผิดอีกหรอคะพี่เซมิ@-@//ตัวอักษรมันเยอะจนหนูตาลาย......เดี๋ยวค่อยหาคำผิดตอนเย็นๆละกัน
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  kor Wed May 02, 2012 1:00 am

มาวิจารณ์ของอายจัง...
แต่งได้ดีทีเดียวล่ะ เนื้อเรื่องดำเนินไปได้ดีมาก

แต่ตัวอักษรที่ใช้ใหญ่ไปและ จัดได้ไม่ดีนัก//แกเรื่องมาก มากกว่า...

--------------------------------

วิจารณ์ของมูสจัง


โอ้ แต่งได้สนุกและน่าติดตามสมเป็นมูสจังมากOwO

ยังคงแต่งให้อารมณ์แบบสบายๆเหมือนเคย ไม่มีอะไรจะพูดต่ออ่ะ=^=...//โดนถีบ
kor
kor

จำนวนข้อความ : 82
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Wed May 02, 2012 9:43 am

วิจารณ์ของท่านมูสค่ะ

รูปแบบการจัดข้อความแล้วก็การเรียงลับเหตุการณ์เข้าใจและสนุกสนานค่ะ แต่เหมือนเคลเบรอสจะยอมง่ายไปหน่อย.....//อ่า นี่แค่ความเห็นส่วนตัวค่ะ ความเห็นส่วนตัว!
.....แล้วก็ คาแรกเตอร์แต่ละคนดูแปลกๆไปหน่อยอ่าค่ะ แบบเรย์คุไม่น่าจะใช้คำว่า ครับ ลงท้าย ส่วนเครมิสจะไม่เรียกใครว่าเจ้า จะเรียกว่านายและแทนตัวว่าเรา อุปนิสัยค่อนข้างประหลาด(เหมือนระบบความคิดจะดูหนุกหนานกว่าใครๆ) และหลงเฟยใช้อาวุธคือเคียวนะคะ ไม่ใช่หอก แหะๆ แล้วก็เวลาเรียกคลาวเดียจะเรียกว่าเจ้า ไม่เรียกว่าเธอค่ะ.....เอิ่ม.....หมดแล้วมั้ง?
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  kor Wed May 02, 2012 7:36 pm

วิจารณ์ของกิ๊ก~

คือเราไม่รู้จะติตรงไหนเลยแหะ*ขำ* แต่เราอ่านแล้วแอบรู้สึกแปลกๆนิดๆ//แค่คิดอ่ะนะ;w;

แต่งได้สุดยอดมากเลยสนุกดี ขนาดอยู่ในน้ำนะนั้น!;w;

กิ๊กช่างสุดยอดดด Orzlll
kor
kor

จำนวนข้อความ : 82
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Wed May 02, 2012 7:39 pm

วิจารณ์ของพี่เซมิ

แบ่งตอนเป็นช่วงได้เหมาะสม แบ่งบทให้ทั้งสี่คนเท่าๆกัน การต่อสู้และการใช้คำสามารถสะท้อนให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกและยิ้มตามไปด้วย....ส่วนเรื่องคำผิดเหมือนจะไม่มีนะเคอะ-.-

และสุดท้ายเรื่อคาแรกเตอร์ตัวละคร ของเรย์คุ คลาวเดีย และหลงเฟยตรงตามคาแรกเตอร์มาก! แต่เครมิสดูจะไม่ค่อยร่าเริงเท่าที่ควรนะคะ//แค่ตามความคิดเราน้า
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  Chalela Wed May 02, 2012 8:29 pm

วิจารณ์อายจ้า!
-คากแรกเตอร์บางตัวแปลกๆ มีรายละเอียดครบดี แล้วก็เว้นช่องสบายลูกตา =w=

วิจารณ์มูสจ้า!
-ชื่อเรียกผิดไปบ้าง บุลคลที่หนึ่งแต่มีบุคคลที่สามโผล่มาจากไสก็ไม่ทราบ
-คำผิดไม่เยอะ แต่บรรยายแปลกไปนิส์!
-ท่านไซเบอร์รัสบรรยายละเอียดยิ๊บเกิ๊น ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ถึงแม้จะบอกว่าพูดรวดเดียวจบขี้เกียจพูดต่อแต่อย่างมากก็บอกแค่ว่ามีผู้พิทักษ์เฝ้าอยู่สี่ตนก็พอแล้ว แถมอสูรบางตัวยอมเค้าง่ายไปมั้ยยยย??

วิจารณ์ของเซมิ~
-ตอนละครบรรยายดี สถานที่ก็โอเค แต่เหมือนมันจะง่ายไปนะ รวบรัดไปนิดนึง
-การบรรยายยอดเยี่ยมได้โล่ โดยเฉพาะความคิดของเรย์จังที่ทำให้คนอ่านฮาก๊ากเสมอ >
Chalela
Chalela

จำนวนข้อความ : 158
Join date : 25/04/2012
Age : 24

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Wed May 02, 2012 9:47 pm

เอิ่ม....เพิ่งมาสังเกต ของพี่เซมิพิมพ์คำว่าทะเลสาบผิดหมดเลยนะคะ แล้วก็คำว่าสังเกต ต้องไม่มีสระอุนะคร้า
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  Zetsubou Semi Wed May 02, 2012 10:06 pm

อืม...นั่นสินะorz...
คำซ้ำเยอะด้วย ลืมลบorz.............
Zetsubou Semi
Zetsubou Semi

จำนวนข้อความ : 74
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Wed May 02, 2012 10:32 pm

Turn 1 อาย


มีการใช้บุรุษ 1 ผสมๆ กับ 3 ในบางตอนจนออกมาแปลกๆ บรรยายได้ดีในระดับหนึ่งแต่ใช้ ... เยอะไปหน่อยจนดูรกไปในบางจุด และติดนิสัยใช้จุดลากยาวๆ ............. ซึ่งมันผิดหลักไปสักหน่อย

ด้านคาแรกเตอร์และความสมเหตุสมผลมีจุดหนึ่งที่ไม่เหมาะคือ หลงเฟย ที่ผมและเสื้อผ้ายาวจนลากพื้นนั้น ไอ้การวิ่งให้เร็วเราไม่ว่า แต่ลองคิดดู...ว่านี่มันในป่า โคลนดิบชื้นสุดๆ เพราะงั้น...ผมต้องเลอะโคลนอย่างแน่นอน แบบนั้นมันก็ต้องสกปรกจนดูแหม่งๆ แหงๆ ส่วนถ้าใช้เวทมนตร์ลอยตัวยิ่งไม่ได้เพราะป่านี้ห้ามใช้

การสร้างตัวละครชุดหรือผมยาวลากพื้นจะมีข้อเสียด้านจุดนี้ที่มันไม่สมเหตุสมผล ต้องเขียนอย่างระวังไม่ใช่คิดแต่ว่าจะสร้างออกมาเป็นแบบนั้น

เนื้อเรื่องของบทนี้นับว่าทิ้งท้ายได้ดี แต่ในบางส่วนก็เอื่อยไปหน่อย ยังไงก็พยายามอ่านทวนเยอะๆ เน้อ


การใช้คำซ้ำสามารถลองตัดได้ เช่น

“นี่คือรายละเอียดเควสและอุปกรณ์ที่น่าจะมีประโยชน์สำหรับพวกคุณครับ”เจ้าของโรงแรมไมนัสส่งยิ้มให้คุณผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มผู้ร่วมเควส(ภารกิจ) และส่งแผนที่เก่าๆใบหนึ่งกับปึกรายละเอียดเควสให้เธอ ก่อนที่จะหยิบหนังปกสีแดงเลือดนกจากใต้เคาท์เตอร์ส่งให้หนุ่มหน้าหวานผู้ส่งสายตาเย็นเยียบให้ซีโร่ตลอดเวลา


ขืนให้ของคุณแล้วคุณกินเข้าไปก็บรรลัยสิครับ.....ของพวกนี้อายุเลยร้อยปีแล้วทั้งนั้น!


“เควสตามหาจอกนี้จะให้เวลาพวกคุณ 5 วันในการทำเควสครับ เพราะทะเลสาบมรณะอยู่ห่างจากโรงแรมค่อนข้างมาก พวกคุณควรจะเตรียมอุปกรณ์เดินป่าไปให้พร้อมด้วย เพื่อความสะดวกในการเดินทางนะครับ”


ให้คะแนน 8/10


Turn 2 มูส

ใช้บุรุษ 1 กับ 3 สลับไปมาในบางส่วน เนื้อเรื่องน้องหมายอมได้ง่ายไปหน่อยจนมันง่ายเกินไปสุดๆ และเล่นบอกข้อมูลหมดเลย ในเมื่อเป็นผู้พิทักษ์ไม่น่ายอมกับแค่ว่าเถียงกับตัวเองนาน แค่คำพูดไม่มีทางยืนยันได้ว่าพวกเขาจะไม่เอาไปขาย ดังนั้นปกติไม่น่าจะยอมง่ายๆ


ใช้ น่ะ กับ นะ ผิด เช่น

“เคลเบรอส!! ล้อเล่นน่า…สัตว์ประหลาดพรรค์นั้นเนี่ยน่ะ ถ้าอย่างนั้นก็แย่อ่ะดิ” เรย์ ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ (เนี่ยนะ)

ไม่ว่าหน้าไหนๆ ก็หวังจะมาเอาจอกศักดิ์สิทธิ์ไป เพื่อขายเอาเงินสิน่ะ” (เอาเงินสินะ)

หึ พวกเจ้าแปลกดีน่ะ ข้าถูกใจนัก (แปลกดีนะ)

ขอบใจมากน่ะ ที่ช่วยพวกเราน่ะ (พวกเรานะ)


ใช้คำผิด

เพราะพวกเค้าเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาจอกศักดิ์สิทธิ์นั่นได้ยังไงพวกเค้ารู้แค่ว่า (เขา ไม่ใช่ เค้า)


ผิดคาแรกเตอร์ เช่น

“แล้วพวกเจ้าจะทำยังไงดีล่ะ ฆ่าก็ฆ่าไม่ได้ แล้วยังกินไม่ได้อีก”เครมิสพูดด้วยร้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไร
ที่ตนเองไม่สามารถกินเจ้าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าได้

(เครมิสไม่ใช้แทนว่า เจ้า น่าจะ นาย เธอ มากกว่า)

“จะเอายังไงกันดีล่ะ จะสู้ จะคุย หรือจะหนี”เครมิสเสนอทางเลือกที่มีตอนนี้ขึ้น (อย่างเครมิสมันคิดแบบนี้ไม่เป็นหรอก...)

“ก็ไม่ได้บอกให้เชื่อนี่ครับ แค่ไม่อยากให้เข้าใจผิดเฉยๆ พวกเราไม่เหมือนพวกเห็นแก่เงินพวกนั้นหรอกน่ะ”เรย์พูดเสริมขึ้นมา (เรย์คุต้องเถื่อน ถ้าไม่เถื่อนก็ต้องด่าสุภาพแทน)

คะแนน 7.6/10 (ตัดเพราะเนื้อเรื่องและคำผิด)


Turn 3 เซมิ


ขอชมว่าเป็นหนึ่งในคนที่เราชอบอ่านสุดๆ >w< เพราะการบรรยายที่มีเอกลักษณ์แปลกดี

บรรยายลักษณะนู่นนี่นั่นได้เยอะดี และเพราะเป็นการบรรยายแบบบุรุษ 1 จึงค่อนข้างจะเข้ากับแนวของท่าน ถือว่าเลือกจุดแข็งตัวเองมาใช้ได้ดี

บางครั้งขึ้นบรรทัดใหม่บ่อยไปหน่อยจนมันดูแปลกๆ ทั้งๆ ที่ควรจะอ่านต่อกัน

ในส่วนของการต่อสู้นั้นความจริงน่าจะดูเสียเปรียบมากกว่านี้ เพราะการจะเคลื่อนไหวในน้ำมันค่อนข้างจะลำบากขึ้น ถึงจะใช้เหตุผลของเรื่องกินพืชน้ำนั่นก็เถอะ แต่มันดูเป็นพืชที่ให้ประโยชน์มากไปหน่อยจนเหมือนว่าใครๆ ก็ว่ายในนี้ได้แน่ถ้ากินมัน

การตัดฉากเรื่องเงือกโผล่ทำได้ดีเชียวล่ะ และขอขอบคุณมากที่ช่วยแบ่งเบาภาระในการเขียนให้ ไม่งั้นเราคงต้องเขียนเยอะโฮก ไม่ก็เขียนน้อยแต่ตัดๆ ซึ่งมันไม่ดีเท่าไหร่ เหอๆ...


คำผิด

ทะเลสาบ

สังเกต

กระทันหัน ต้อง กะทันหัน

เจ้าตัวนี่กินได้มั้ยอ่ะ? ดูน่ากินจังเลย!!’นั้นขัดลูกตาอย่างแรง (เจ้าตัวนี้)


การตัดคำเช่น

มันเหมือนเต่าที่มีหัวและแขนขายาวกว่าปกติ มีกระดองเต่าอยู่ด้านหลัง ร่างกายผอมแห้งติดกระดูกเหมือนไปผจญภัยในทะเลทรายซาฮาร่ามา10ปี


มีมือและเท้าเหมือนมนุษย์เพียงแต่นิ้วมือและเท้าของมันมีผังผืดช่วยให้ว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ที่ปากมีจงอยอันแหลมคม


แล้วผมก็ไม่รอช้า ชักอาวุธของผมออกมาด้วย มันคือดาบ*วากิซาชิที่ปกติจะไม่ใช้ต่อสู้ แต่มีไว้สำหรับทำพิธีคว้านท้อง


ถึงผมจะพกแตงกวามาเผื่อเจอกัปปะก็เถอะ แต่ว่าไม่นึกว่าจะเจอจริงๆแถมผมยังพกมาแค่ผลเดียวด้วย ว่ากันว่ากัปปะชอบกินแตงกวามาก


คะแนน 8.8/10 (หักเพราะการขึ้นบรรทัดใหม่ที่ถี่ไป คำผิดเล็กน้อย และอื่นๆ)


แก้ไขล่าสุดโดย DarkPhoenix เมื่อ Thu May 03, 2012 3:24 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Wed May 02, 2012 11:00 pm

อ่า...คะแนนดีกว่าเควสมาเรียแฮะ.....


หนูรอวิจารณ์จากพี่แพรในเควสปิเอโร่อยู่นะคร้า
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Wed May 02, 2012 11:28 pm

RUMINA พิมพ์ว่า:อ่า...คะแนนดีกว่าเควสมาเรียแฮะ.....


หนูรอวิจารณ์จากพี่แพรในเควสปิเอโร่อยู่นะคร้า

สำหรับของอายเท่าที่อ่านนะ


จอก>มาเรีย>ปิเอโร่


ความรู้สึกพี่นะ =w=
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Thu May 03, 2012 8:37 am

ดีขึ้นตามลำดับสินะคะ เย้ๆ
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Thu May 03, 2012 8:38 am

ส่วนเรื่องผมของหลงเฟยเดี๋ยวหนูแต่งพาร์ทพิเศษจัดหลงเฟยมัดผมไม่ให้มันลากพื้นละกันค่ะ เวลาแต่งอีกวันหลังจะได้ไม่ยุ่งยาก ฮา~
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Thu May 03, 2012 12:24 pm

RUMINA พิมพ์ว่า:ส่วนเรื่องผมของหลงเฟยเดี๋ยวหนูแต่งพาร์ทพิเศษจัดหลงเฟยมัดผมไม่ให้มันลากพื้นละกันค่ะ เวลาแต่งอีกวันหลังจะได้ไม่ยุ่งยาก ฮา~

ความจริงถ้ารวบก็น่าจะยังลากพื้นหรือแตะๆ อยู่ดี และแม้ว่าเวลายืนจะไม่ลาก ตอนนั่งก็ลากพื้นแน่ๆ

ดังนั้นน่าจะลองคิดดูว่าให้เขารวบผมแล้วพันไว้ที่คอ (คล้ายผ้าพันคอ) ถ้าทำแบบนี้จะทำให้มันไม่ลากพื้นได้
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Thu May 03, 2012 12:41 pm

DarkPhoenix พิมพ์ว่า:
RUMINA พิมพ์ว่า:ส่วนเรื่องผมของหลงเฟยเดี๋ยวหนูแต่งพาร์ทพิเศษจัดหลงเฟยมัดผมไม่ให้มันลากพื้นละกันค่ะ เวลาแต่งอีกวันหลังจะได้ไม่ยุ่งยาก ฮา~

ความจริงถ้ารวบก็น่าจะยังลากพื้นหรือแตะๆ อยู่ดี และแม้ว่าเวลายืนจะไม่ลาก ตอนนั่งก็ลากพื้นแน่ๆ

ดังนั้นน่าจะลองคิดดูว่าให้เขารวบผมแล้วพันไว้ที่คอ (คล้ายผ้าพันคอ) ถ้าทำแบบนี้จะทำให้มันไม่ลากพื้นได้


โอเคค่ะ ....ถ้าพันคอแล้วไม่ดีเดี๋ยวตัดผมทิ้งซะเลย หึหึ//เอาให้ยาวแค่กลางหลังพอ เดี๋ยวกลับแดนสิ้นคืนค่อยไว้ยาวใหม่ อะไรประมาณนั้น555


ขอบคุณที่ให้คำแนะนำนะคะพี่//โค้ง
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Sun May 06, 2012 12:13 am

ลงเรียบร้อย ขาลาไปนอน zZ
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  RUMINA Sun May 06, 2012 9:19 am

อุว้าว......จบได้น่าประทับใจจังค่ะพี่.....><

อืม...เหมือนคำผิดจะไม่มีนะคะ(ดูผ่านๆ) แต่พิมพ์คำตกไปที่นึง(อยู่ตรงที่เรย์คุกับเครมิสกำลังจะจมน้ำ...น่าจะแถวนั้นนะคะ)
RUMINA
RUMINA

จำนวนข้อความ : 286
Join date : 25/04/2012
Age : 26

ขึ้นไปข้างบน Go down

[Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]] Empty Re: [Normal Quest]ตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้ง4[[ปิดเควส]]

ตั้งหัวข้อ  DarkPhoenix Sun May 06, 2012 11:08 am

งืมๆ รับทราบ ไว้ว่างๆ จะไปเช็คคำอีกที =w=
DarkPhoenix
DarkPhoenix

จำนวนข้อความ : 291
Join date : 25/04/2012

ขึ้นไปข้างบน Go down

หน้า 1 จาก 3 1, 2, 3  Next

ขึ้นไปข้างบน

- Similar topics

 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ